บก.ปส. ตรวจยึดยาบ้า 8.8 ล้านเม็ด

บก.ปส. ตรวจยึดยาบ้า 8.8 ล้านเม็ด และยาเค 50 กก. พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย ในพื้นที่ อ.เชียงแสน

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 19 พ.ค. 65 เจ้าพนักงานตำรวจ บช.ปส. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ได้ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 บช.ปส. เฝ้าระวังการกระทำผิดกฏหมายตามแนวชายแดน จ.เชียงราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายอนันต์สิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย นายธเนศ (สงวนนามสกุล) ชาว ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา และนายเซ้ง (สงวนนามสกุล) ชาวบ้าน ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แล้วนำมาเก็บพักคอยในพื้นที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ก่อนนำส่งให้กับกลุ่มลูกค้า

กระทั่งวันที่ 18 พ.ค. 65 ตอนกลางวัน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า กลุ่มนายอนันต์สิทธิ์ จะใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน ผผ-xxx เชียงใหม่ ในการลำเลียงยาเสพติด โดยมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บต-xxxx พะเยา และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ ทะเบียน xกธ-xxxx เชียงราย ในการขับนำทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าสำรวจพื้นที่ อ.เชียงแสน จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันที่ 19 พ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบรถจักรยานยนต์ ทะเบียน xกธ-xxxx เชียงราย ขับนำ รถยนต์กระบะ ทะเบียน บต-3081 พะเยา ตามด้วยรถยนต์กระบะ ทะเบียน ผผ-xxxx เชียงใหม่ ออกจากพื้นที่ต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นจุดรับเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันสกัดรถทั้ง 3 คัน โดยพบยาบ้า จำนวน 8,800,000 เม็ด และเคตามีน ชนิดเกร็ด จำนวน 50 กก. ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ ทะเบียน ผผ-3097 เชียงใหม่ ซึ่งนายอนันต์สิทธิ์ เป็นผู้ขับขี่ จึงได้ทำการจับกุมนายอนันต์สิทธิ์ และพวก ได้ที่บริเวณริมถนน บายพาสเชียงแสน-เชียงราย (ขาเข้า อ.เมืองเชียงราย)

จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า ” ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และ ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และ จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”

ร่วมแสดงความคิดเห็น