ข่าวปลอม! วัคซีนโควิด-19 มีสารกัมมันตภาพรังสี

ข่าวปลอม!วัคซีนโควิด 19 มีสารกัมมันตภาพรังสีและนาโน พาทิเคิล เป็นอันตรายต่อมนุษย์

วันที่ 20 พ.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการแชร์ส่งต่อข้อมูลเรื่องวัคซีนโควิด 19 มีสารกัมมันตภาพรังสีและนาโน พาทิเคิล เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการเผยแพร่ข้อมูลที่ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 มีสารกัมมันตภาพรังสีและนาโน พาทิเคิลที่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ ทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบและชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง วัคซีนป้องกันโควิด 19 ทุกชนิดที่ใช้ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยมีการผลิตตามมาตรฐานสากล และไม่มีสารกัมมันตภาพรังสี และสิ่งปนเปื้อนแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ops.moph.go.th/public/ หรือโทร. 0-2590-1000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : วัคซีนป้องกันโควิด 19 ทุกชนิดที่ใช้ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยมีการผลิตตามมาตรฐานสากล และไม่มีสารกัมมันตภาพรังสี และสิ่งปนเปื้อนแต่อย่างใด

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น