ใช้เทคโนโลยี Blockchain เชื่อมข้อมูลภาษี

ข่าวจริง!!!สรรพากร ร่วมกับ 11 ธนาคาร ใช้เทคโนโลยี Blockchain เชื่อมข้อมูลภาษี

วันที่ 29 พ.ค. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องสรรพากร ร่วมกับ 11 ธนาคาร ใช้เทคโนโลยี Blockchain เชื่อมข้อมูลภาษี ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

สรรพากรจับมือ 11 ธนาคาร นำเทคโนโลยี Blockchain ของ NDID ยกระดับการยืนยันตัวตน และเชื่อมข้อมูลการให้บริการภาษี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากร โดยเชื่อมต่อกับระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของ NDID เพื่อให้การพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัลสามารถนำมาใช้ในการสนับสนุนข้อมูลการให้บริการธุรกรรมภาษีของกรมสรรพากร ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนช่วยอำนวยความสะดวก ปลอดภัย สร้างความโปร่งใส ลดภาระของประชาชนและภาคเอกชนในการติดต่อ หรือใช้บริการจากกรมสรรพากร สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ww.rd.go.th หรือ ศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. 1161

ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมสรรพากร สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.rd.go.th หรือเพจเฟซบุ๊ก กรมสรรพากร : The Revenue Department หรือโทร 1161

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : กรมสรรพากร ร่วมกับ 11 ธนาคาร ใช้เทคโนโลยี Blockchain เชื่อมข้อมูลภาษี

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น