บูรณะ”ผาวิ่งชู้”สร้างรั้วกั้นหน้าผาใหม่ป้องกันอันตราย

บูรณะ”ผาวิ่งชู้”สร้างรั้วกั้นหน้าผาใหม่ป้องกันอันตราย

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก”ผาวิ่งชู้ ตำนานรักอมตะ”แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ตั้งอยู่พื้นที่บ้านดงดำ ต.ฮอด อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ชึ่งก่อนหน้านั้นบริเวณแห่งนี้ชำรุดทรุดโทรมพื้นที่ปกคลุมไปด้วยวัชพืช โดยเฉพาะบริเวณหน้าผา ที่มีเหวลึก รั้วกั้นได้ทรุดลงเหวเป็นอันตรายอย่างยิ่งที่จะทำให้นักเที่ยวเกิดอันตรายพลัดตกเหวได้ ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ในขณะนี้ทาง อบจ.เชียงใหม่ ร่วมกับ ทต.ฮอด ได้ทำการปรับปรุงก่อสร้างถนนเข้าสู่”ผาวิ่งชู้ตำนานรักอมตะ” ด้วยถนนลาดยางแอสฟัลติกท์ฯ ในบริเวณทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น ตัดถางหญ้า ปลูกต้นไม้ และปลูกดอก มีห้องน้ำสะอาดไว้บริการ

ส่วนหน้าผาวิ่งชู้ฯที่มีเหวลึกได้ทำการปักเสารั้วขึ้นใหม่ และทาสีแดงไว้ตามเสาเพื่อเป็นสัญญานพื้นที่อันตรายไว้

สำหรับประวัติคร่าวๆของ”ผาวิ่งชู้ตำนานรักอมตะ” จากนิทานพื้นบ้านของชาวล้านนา เมื่อหลายพันปีที่ผ่านมา พระยาแสนโท ผู้ปกครองเมืองพิศดารนคร หรือ เมืองฮอดในปัจจุบัน มีบุตรธิดา 2 คน คือพระนางแอ่นฟ้า กับ พระนาย ต่อมาความรักต่างฐานันดรจึงเกิดขึ้น พระนางแอ่นฟ้า ไปมีความรักกับ น้อยสิงห์คำ ลูกชายเสนาบดีคนหนึ่ง เมื่อพระยาแสนโท ทราบเรื่องจึงเรียกคนทั้งสองมาตักเตือนว่าทำผิดกฎมณเทียรบาล มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต ด้วยความรักที่ทั้งสองมีต่อกันจึงพากันหลบหนีโดยทั้งคู่ควบม้าสีขาวอกจากเมืองกลางดึก

เมื่อพระยาแสนโท ทราบเรื่องเกิดความโมโหได้สั่งทหารนำกำลังออกติดตามพร้อมด้วยพระนาย น้องชายพระนางแอ่นฟ้า ขณะที่น้อยสิงห์คำควบม้าพระนางแอ่นฟ้านั่งท้าย ได้ยินเสียงม้าของเหล่าทหารไล่ติดตามมา เมื่อทั้งคู่ควบม้ามาถึงหน้าผา แต่น้อยสิงห์คำไม่กล้าบังคับม้าพาคนรักไปสู่ความตาย ทางพระนางแอ่นฟ้าเห็นจวนตัวจึงขึ้นบังคับม้าแทนให้น้อยสิงห์คำนั่งหลังแล้วใช้ผ้าสีขาวมัดปิดตาม้าบังคับม้าพุ่งเหวเสียชีวิตทั้งคู่

ส่วนพระนาย น้องชายที่นิดตามมากับทหารเห็นความตายของพี่สาวอย่างน่าเวทนา เกิดความเศร้าโศกเสียใจอย่างหนักพอเดินมาถึงลำห้วยได้ตรอมใจตาย ทางด้านพระยาแสนโท เกิดความเสียใจที่สูญเสียลูกทั้งสองไป แต่ได้เพียงแค่ทำบุญไปให้โดยนำสิ่งของต่างๆลอยลงแม่น้ำปิงหวังนำไปให้ลูก

ต่อมาร่างของน้อยสิงห์คำ ลอยไปติดท่าน้ำ เลยตั้งชื่อ”บ้านน้อย” ร่างของพระนางแอ่นฟ้า ลอยไปติดอีกท่าน้ำ จึงชื่อ”บ้านแอ่น” ร่างของม้าไปนิดอีกท่าเรียกว่า”ท่าม้า” ส่วนผ้าขาวที่ผูกตาม้าไปติดที่วังน้ำ จึงเรียกว่า”วังน้ำขาว” ส่วนลำห้วยที่พระนายเสียชีวิต มีชื่อว่าลำห้วยพระนาย

ส่วนสิ่งของที่พระยาแสนโท ทำบุญนำไปลอยน้ำ จึงเป็นที่ตั้งชื่อหมู่บ้านอีกหลายหมู่บ้าน เช่น บ้าวแต๋น เป็นบ้านผาแตน,หม้อ เป็นบ้านวังหม้อ,สลุง เป็นบ้านวังสลุง หรือ บ้านวังลุง จวบจนถึงปัจจุบันนี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น