คอมเมนต์ดูหมิ่นภาพถ่ายบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน

ข่าวปลอม!!!โพสต์หรือคอมเมนต์ดูหมิ่นภาพถ่ายบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับ 500,000 บาท

วันที่ 2 มิ.ย. 65 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันว่าเป็นข่าวปลอม เพิ่มเติม 1 กรณีคือ

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องโพสต์หรือคอมเมนต์ดูหมิ่นภาพถ่ายบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับ 500,000 บาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการบอกต่อข้อมูลโดยระบุว่า โพสต์หรือคอมเมนต์ดูหมิ่นภาพถ่ายบุคคลอื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับ 500,000 บาท ทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดโทษอาญาตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แต่ในข้อเท็จจริงนั้น การกระทำความผิดตามตัวอย่างที่กล่าวมาไม่เข้าองค์ประกอบโทษอาญาของกฎหมายนี้
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายใหม่ที่มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2565 แต่มีผู้เข้าใจสาระสำคัญของกฎหมายคลาดเคลื่อนเป็นจำนวนมาก และการส่งต่อข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้ประชาชนตื่นตระหนก หวาดกลัวกับการบังคับใช้กฎหมายที่มีเจตนารมณ์เพื่อคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัว และป้องกันการล่วงละเมิดในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เว็บไซต์ https://www.mdes.go.th/home หรือโทร. 02 141 6747

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : กรณีดังกล่าวเป็นความผิดโทษอาญาตามมาตรา 79 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แต่ในข้อเท็จจริงนั้น การกระทำความผิดตามตัวอย่างที่กล่าวมาไม่เข้าองค์ประกอบโทษอาญาของกฎหมายนี้

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน
5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น