ขับเคลื่อนโครงการ “ป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้”

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ขับเคลื่อนโครงการ “ป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้”

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตระหนักถึงคุณค่าอเนก อนันต์ของน้ำ ทรงคํานึงว่าทุกสรรพสิ่งในสภาพแวดล้อมของมนุษย์นั้น จะเกื้อกูลซึ่งกันและกันได้หากรู้จักนําไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ เฉกเช่นเดียวกับพระราชดําริป่าเปียก เพื่อป้องกันไฟไหม้ป่านั้น จึงเป็นมรรควิธี ที่ทรงคิดค้นขึ้นจากหลักการที่แสนง่ายแต่ได้ประโยชน์มหาศาล กล่าวคือ ยามที่เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นคราใด ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะคํานึงถึงการแก้ปัญหา ด้วยการระดมสรรพกําลังกันดับไฟป่าให้มอด ดับอย่างรวดเร็ว แต่แนวทางใน การป้องกันไฟป่าในระยะยาวนั้น ยังดูเลือนรางในการวางระบบอย่างจริงจัง พระราชดําริป่าเปียก จึงเป็นพระราชดําริหนึ่งที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงแนะนําให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดําริ ทําการศึกษาทดลองจนได้รับผลสําเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยวิธีการสร้าง “ป่าเปียก” นั้น

ในการนี้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3/ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงมีดำริให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ในพื้นที่ 17 ภาคเหนือ รวมทั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ทั้ง 17 จังหวัด ร่วมบูรณาการกับส่วนราชการ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ในการจัดทำโครงการ “ป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้” โดยการลดการเผาและสร้างรายได้ มีรูปแบบการลดปริมาณเชื้อเพลิงที่หลากหลาย เช่น การปลูกข้าวโพดตัดขายแบบสดและลำต้นเป็นอาหารสัตว์, การเก็บตอซังข้าวโพดและตอซังข้าวแบบแห้ง เป็นอาหารสัตว์, การบีบอัดตอซังข้าวโพด อ้อย หรือกิ่งลำไย เพื่อเป็นเชื้อเพลิง และการสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวล การขนส่ง และรายได้ที่เหมาะสม รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างป่าเปียก อันเป็นการที่จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของป่าแล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหาไฟป่า และหมอกควันอีกทางหนึ่งด้วย โดยในห้วงที่ผ่านมา มีการดำเนินการที่สำคัญ ดังนี้

  1. เมื่อ 25 พฤษภาคม 2565 เลขานุการคณะทำงานโครงการป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประพัฒน์ เชื้อไทย และผู้แทนจากบริษัทสหโคเจน กรีน จำกัด (ผลิตไฟฟ้าจากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร) ได้เข้าพบ นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันโดยการนำวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตรมาแปรรูปซึ่งเป็นการขับเคลื่อนโครงการป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้ ณ ห้องประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำพูน ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดลำพูน
  2. เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3/รองประธานคณะทำงานโครงการป่าเปียก ลดเชื้อเพลิง สร้างรายได้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประพัฒน์ เชื้อไทย และผู้แทนผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าแม่เมาะ (ผลิตไฟฟ้าจากวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร) ได้เข้าพบ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง เพื่อหารือ การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันโดยการนำวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตรมาแปรรูป ณ ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดลำปาง พร้อมทั้งได้เดินทางไปยังบริษัทปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เพื่อดูงานในด้านการใช้วัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร เป็นพลังงานความร้อนในอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายยกเลิกการใช้ถ่านหินและหันมาใช้วัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตร ร้อยละ 100 ในปี 2569 ซึ่งจะรับซื้อวัตถุดิบฯอย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังได้ดูงานในระบบ นวัตกรรมการ ออกแบบเครื่องสับย่อยวัตถุดิบฯ, ดูงานการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป, การทำฝายชะลอน้ำในรอบ 10 ปี จำนวน 75,000 กว่าฝาย และ การสนับสนุนความรู้และเครื่องมือให้กับชุมชนพื้นที่โดยรอบ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ให้ลดการเผาและแปลงวัตถุดิบเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นรายได้

กองทัพภาคที่ 3/กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนช่วยกันฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ฟื้นฟูป่าไม้ ต้นน้ำน้ำลำธาร เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับแผ่นดิน สร้างความสมดุลให้กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อันเป็นการน้อมนำแนวทางตามพระราชดำริ อีกทั้งเป็นการป้องกันการเกิดไฟป่า หมอกควัน และอุ่นละอองในอากาศ รวมทั้งการสร้างรายได้อีกด้วย

คณะบรรณาธิการข่าว กองทัพภาคที่ 3
3 มิถุนายน 2565

ร่วมแสดงความคิดเห็น