ชัชชาติ จ่อไฟเขียว ขรก.แต่งกายตามเพศวิถี

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดงาน Pride Month 2022 ซึ่งสามย่านมิตรทาวน์ ได้ประกาศความเป็น Iconic LGBTQ+ Landmark ภายใต้แคมเปญ Samyan Mitr Pride 100% Love เพราะความรักมีหลากหลาย เนรมิตพื้นที่สีรุ้ง สร้างแรงบันดาลใจของกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทย เชิญชวนให้มาเช็คอินแบบ Pride Life พร้อมตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คสนับสนุนความเท่าเทียมและความภูมิใจในตัวเอง จัดเต็มกับ Pride Walkway เพิ่มดีกรีสีสันแห่งสายรุ้งแบบเต็มพิกัดกับทางม้าลายสีรุ้ง ทางเดินสีรุ้ง รวมถึงการประดับไฟสีรุ้ง บริเวณทางเข้าหน้าศูนย์การค้า และอุโมงค์สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2565 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับสัญลักษณ์ รุ้ง 6 สี เริ่มมาจาก กิลเบิร์ต เบเคอร์ นักเคลื่อนไหว และศิลปินผู้ออกแบบธงสีรุ้ง มาจากแนวคิดที่ว่ากลุ่มหลากหลายทางเพศ ควรมีธงเป็นของตัวเอง และที่เลือกใช้สีรุ้งเพราะต้องการสะท้อนความหลากหลายได้ดีที่สุด ธงรุ้ง 6 สี ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มิถุนายน 1978 โดยมีนิยามความหมายของแต่ละสี ดังนี้ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์แห่งความหวัง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า หมายถึง ศิลปะ สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณ 

นโยบายด้าน LGBTQ+ ในกทม. หรือกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เป็นส่วนหนึ่งในนโยบาย 214 ข้อ โดยได้รับการยอมรับผ่านความเข้าใจจาก กทม. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ประชาชนได้รับการบริการอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ด้วยความเข้าใจในความอ่อนไหวทางเพศ (gender sensitivity) และความเท่าเทียมทางเพศ การยอมรับความหลากหลายทางเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศในสังคมไทยยังคงมีเงื่อนไข ในฐานะหน่วยงานรัฐของประชาชนและนายจ้างของข้าราชการ กทม. การยอมรับและเข้าใจถึงความหลากหลายเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับภาครัฐไทยให้ทัดเทียมกับภาคเอกชนหรือเครือข่ายต่าง ๆ

นอกจาก เรื่องความหลากหลายทางเพศวิถีแล้วยังมีเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่หน่วยงาน กทม. ต้องให้ความสำคัญ สามารถริเริ่มได้โดย 

1. กำหนดหลักธรรมาภิบาลของหน่วยงานใน กทม. ให้การยอมรับโดยไม่มีเงื่อนไขในสังคมและสนับสนุนความเท่าเทียม 

2. อบรมให้เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานของ กทม.ปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่และประชาชน โดยเฉพาะผู้มีความหลากหลายทางเพศอย่างเท่าเทียม เน้นการยอมรับและความเข้าใจ 

3. สามารถร้องทุกข์เรื่องการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมได้ 

4. สนับสนุนการแสดงออกที่หลากหลาย โดยไม่บังคับแต่งชุดเครื่องแบบข้าราชการตามเพศกำเนิด สามารถใส่ตามที่สะดวกใจได้ 

5. มีกฎเพื่อป้องกันการคุกคามทางเพศในหน่วยงาน กทม. นอกจากนี้ยังนำร่องพัฒนาคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย คลินิกสาธารณสุขเฉพาะทางด้านสุขภาพของกลุ่ม LGBTQI+ ในโรงพยาบาลของรัฐมีเพียง 2 แห่งเท่านั้น คือคลินิกสุขภาพเพศของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย โรงพยาบาลรามาธิบดี

กทม.จะนำร่องเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ในประเด็นจำเพาะ เช่น บริการจิตวิทยาการปรึกษา การใช้ยา-ฮอร์โมน และการผ่าตัดแปลงเพศของกลุ่มคนข้ามเพศในศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) หรือโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ตามความเหมาะสม เพื่อสร้างสวัสดิการของรัฐที่ครอบคลุมความหลากหลายของมนุษย์

ร่วมแสดงความคิดเห็น