(มีคลิป) เปิดคลิปดีเจหนุ่มเลือดร้อน บุกพังกระจกร้านเหล้า

เปิดคลิปดีเจหนุ่มเลือดร้อน บุกพังกระจกร้านเหล้าย่านช้างเผือก เหตุไม่พอใจถูกเจ้าของร้านแบนเลิกจ้างเพราะสร้างความเดือดร้อนกับร้าน ล่าสุด ตร.เตรียมออกหมายจับ หากไม่มารายงานตัว หลังผู้เสียหายแจ้งความแล้ว

ภาพคลิปกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 04.17 น. ของวันที่ 30 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้นในร้าน LIDO SRT SPACE คาเฟ่ย่าน ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ที่คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าร้านยืนดูลาดเลาอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเดินไปหยิบก้อนหินมาทุบกระจกหน้าร้าน ลักษณะจงใจจะทุบกระจกแต่กระจกไม่แตก จึงเดินไปหยิบกระถางต้นไม้ขว้างใส่กระจกบานใหญ่ที่หน้าร้านจนกระทั่งกระจกแตก ก่อนจะปาข้าวของเข้าไปในร้าน และรื้อกระจกหน้าร้านพังเสียหาย หลังจากนั้นชายคนดังกล่าว ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขณะที่ภายหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และทางเจ้าของร้านผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นคลิปเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดยจากการตรวจสอบ ทางเจ้าของร้านยืนยันว่า บุคคลที่ปรากฎในคลิปไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่เคยทำงานในร้าน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ชายคนนี้เป็นดีเจที่อยู่ในร้าน ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานได้เพียงไม่นาน แต่ช่วงทำงานเกิดมีปัญหากัน และอาจเป็นผมที่ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจ จึงมาก่อเหตุดังกล่าว และนอกจากนี้ทางเจ้าของร้านยังบอกอีกว่า ชายคนดังกล่าวยังมีการพูดข่มขู่ และท้าทายโดยไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด ทำให้ทางร้านต้องนำคลิปวิดีโอที่ชายคนดังกล่าวมาก่อเหตุโพสต์ลงโซเชี่ยล เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมและต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี เนื่องจากทางร้านได้รับความเสียหายจากที่ทางชายคนดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุทำลายข้าวของ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

ขณะที่ล่าสุดในช่วงสายวันนี้ (3 มิ.ย.65) ทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของร้าน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุ พบว่ายังมีร่องรอยของความเสียหาย โดยที่บริเวณหน้าร้านต้องทำการปิดประตูชั่วคราว เนื่องจากกระจกบานใหญ่หน้าร้านถูกทุบแตก อีกทั้งยังมีร่องรอยเศษกระจกที่ตกบนพื้นที่ ขณะที่ด้านในร้าน ทางพนักงาน และเจ้าของร้านได้ทำการเก็บกวาดบางส่วนแล้ว

จากการสอบถามทางด้าน นายธนดล วงศ์ไชย อายุ 25 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ชายที่มาก่อเหตุคือคนรู้จักที่มาทานที่ร้านได้ไม่นาน โดยก่อนหน้านี้ได้พูดคุยตกลงให้ทางชายคนดังกล่าวมาเป็นดีเจ และดูแลร้าน โดยก่อนหน้านี้คนก่อเหตุซึ่งเป็นคนรู้จักกับเพื่อนเคยมาทดลองทำงานที่ร้านประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนสาเหตุหลักน่าจะมาจากที่ ตนไม่ให้ชายคนดังกล่าวทำงานที่ร้านต่อ จากที่ก่อนหน้านี้ตกลงว่าจะให้ดีเจรายนี้มาช่วยดูแลร้านโดยจะแบ่งเงินให้ 50 เปอร์เซนต์ จากยอดขาย แต่ได้ตกลงกันว่า จะขอให้ทดลองงานก่อน 10 วัน โดยในช่วงทดลองงานจะจ่ายเงินให้ 10 เปอร์เซนต์ ของรายได้ร้าน

แต่ในช่วงทดลองงานชายคนนี้ก็มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งปิดร้านเกินเวลา พาเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าต่อที่ร้านจนดึกดื่น และเบิกค่าใช้จ่ายเกิน จึงตัดสินใจไม่ให้เขามาทำงานที่ร้าน และหลังเลิกจ้างชายคนนี้ยังมาทวงเงินค่าทดลองงาน 10 เปอร์เซนต์ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายที่ก่อนหน้านี้ ชายคนนี้ติดค้างค่าใช้จ่ายที่พาเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าที่ร้านแล้วเหลืออยู่แค่เพียงประมาณ 400 บาทเท่านั้น ซึ่งเขายินยอมจ่ายให้อยู่แล้วแต่หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวอาจเกิดความไม่พอใจ และได้มาก่อเหตุตามที่ปรากฎภายในคลิป

นายธนดล บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหลังที่ชายรายนี้พังร้านทำลายข้าวของเสร็จยังขี่รถกลับมาดูที่ร้านอีกครั้ง แถมยังมีการตะโกนด่าท้าทายให้คนที่อยู่ในร้านออกมาเจอกัน ซึ่งขณะนั้นตนก็พักอยู่ชั้นบนอาคาร แต่ไม่กล้าจะลงมา เพราะเกรงว่าชายคนดังกล่าวจะมีอาวุธ และอาจถูกทำร้าย จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นมีทรัพย์สินพังเสียหายเป็น กระจกบานใหญ่หน้าร้าน ลำโพง และโต๊ะเก้าอี้ ที่ถูกชายคนดังกล่าวผาก้อนหินเข้ามา โดยกระจกบานใหญ่ที่แตกไปหากซ่อมทำใหม่ก็อยู่ราวๆ ประมาณเกือบ 3 หมื่นบาท ซึ่งยังไม่รวมกับทรัพย์สินอื่นๆ ที่เสียหาย ที่ประเมินรวมราวๆ ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท

อย่างไรก็ตามในส่วนของความคืบหน้าของคดีนั้น ภายหลังจากทางผู้เสียหายได้เข้าทำการแจ้งความแล้ว ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายเรียกตัวดีเจวัย 43 ปี ที่ก่อเหตุรายนี้ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และยังอยู่ในระหว่างการเข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากหลังจากนี้ทางเจ้าตัวยังไม่ยอมเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะมีการออกหมายจับตามกฎหมาย ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวยังได้ทำการติดต่อไปหาดีเจคนดังกล่าว แต่ปรากฎว่าทางดีเจหนุ่มรายนี้บอกเพียงว่าไม่ขอให้รายละเอียดข้อมูลแต่อย่างใด และบอกเพียงว่าจะเข้าพบให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเท่านั้น