อธิบดีกรมส่งเสริมเกษตรลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเกษตรกรปรับพื้นที่นาสู้ภัยแล้ง

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 11 มี.ค.59 ที่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมคณะ ได้เข้าตรวจเยี่ยมพืชที่การเกษตรของนางนุจรินทร์ ปิมปา เกษตรกรที่เดิมปลูกข้าวนาปรัง แต่พอได้รับการแนะนำจากกรมส่งเสริมการเกษตรว่าจะมีปัญหาภัยแล้งกลับเปลี่ยนแปลงปลูกพืชระยะสั้นและใช้น้ำน้อยแทนและได้ผลดี โดยได้ปลูกพืชผักสวนครัวและปลูกพืชไม้ผลเสาวรสที่ใช้น้ำน้อย ซึ่งได้ผลดีอย่างมาก
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ในนโยบายรัฐบาลของภัยแล้งปีนี้เป็นภาวะความกังวลสูงมากว่าจะมีภาวะแห้งแล้ง ในส่วนรัฐบาลเองได้มีการเตรียมการวางแผนล่วงหน้ามานานตั้งแต่ฤดูผลเมื่อปีที่แล้ว มีการทำแผนชุมชนมีการวางมาตรการต่างๆไว้ โดยทางคณะรัฐมนตรีเองได้วางมาตรการภัยแล้งถึง 8 มาตรการ และมีการขับเคลื่อนโครงการต่างๆลงพื้นที่
ในกรณีของภาคการเกษตรมีการสนับสนุนของเรื่องภัยที่แล้งที่ไม่ใช่งบเยียวยาเหมือนในอดีต ที่เน้นเรื่องการช่วยเหลือเมื่อผลผลิตเสียหาย แต่ช่วยเกษตรกรหน้าแล้งในการปรับเปลี่ยนการเกษตร คือการส่งเสริมการปลูกน้ำน้อย การประมงขนาดเล็กการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา มีงบประมาณสนับสนุนประมาณพันล้านในเรื่องนี้ ในพื้นที่ทั่วประเทศเปิดโอกาสให้เกษตรกรสร้างอาชีพในช่วงน้ำแล้งเช่น โครงการการปลูกพืชน้ำน้อย ทำเกษตรเพื่อใช้โครงการสร้างในการเกษตรทำยุ้งฉางหรือการปรับปรุงแหล่งน้ำของตนเอง หรืออาชีพนอกภาคเกษตรโดยการรวมกลุ่ม รัฐบาลอนุมัติไปแล้ว 80,227 โครงการ งบประมาณ 4,700 กว่าล้านบาท เพื่อลงพื้นที่ต่างๆ
ในส่วนของพื้นที่นาปรังปีนี้ได้ขอความร่วมมือให้ลดการปลูกลง ในจังหวัดเชียงใหม่เองพื้นที่นาปีมี 4 แสนไล่ นาปรังมี 1 แสนไร่ เกษตรกรทำการผลิตไม่เกิน 6 หมื่นไร่ โดยพี่น้องเกษตรกรเองนั้น มาทำการผลิตพืชใช้น้ำน้อย โดยปรับน้ำลดลงไปครึ่งนึง ใช้พื้นที่น้อยกว่าในการให้รายได้ โดยการปรับเปลี่ยนพื้นที่นา โดยปลูกข้าวโพด ปลูกถั่วเหลือง ปลูกพืชผักหลายชนิดโดยให้ผลผลิตอายุน้อย 20 – 30 วัน ปลูกไม้ผลเสาวรสที่ใช้น้ำไม่มากให้ผลผลิตมั่นคงต่อเนื่องหลายปี