สนับสนุนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด

b3 w=12h=9เชียงใหม่” เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง หวังสร้างให้ประชาชนเป็นฉลาดบริโภค ที่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบได้

เมื่อวันที่ผ่านมา พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “สคบ.สัญจร จังหวัดเชียงใหม่” โดยมีนายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. คณะผู้บริหารจาก สคบ. และคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดเชียงใหม่ณ ห้องทองกวาว อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่

โดย พลตำรวจเอก เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคยังมีข้อจำกัดและปัญหาอุปสรรคอยู่หลายประการ ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวคิดในการดำเนินงานที่เน้นในเชิงรับและการควบคุมโดยภาครัฐ ขาดการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง ทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิผู้บริโภคของประชาชนยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องปรับกรอบแนวคิดการดำเนินงานให้เป็นเชิงรุก เน้นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารด้านการคุ้มครองผู้บริโภคสู่ประชาชน และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคมให้มากขึ้น รวมทั้งการขยายเครือข่ายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคไปยังภาคประชาชนทุกกลุ่ม และในสถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้เป็นหน่วยอาสาในการเฝ้าระวังการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจที่อาจเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค

ด้านนายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า สืบเนื่องจากปัจจุบัน ปัญหาของประชาชนผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคจากการซื้อสินค้าและบริการต่างๆพบว่า มีสภาพปัญหาไม่แตกต่างไปจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี จึงได้จัดทำโครงการ สคบ.สัญจร ขึ้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งสร้างให้ประชาชนเป็นผู้ฉลาดบริโภคที่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อสินค้าหรือบริการโดยง่าย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาการละเมิดสิทธิและเอาเปรียบผู้บริโภค ส่วนหนึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจกฎระเบียบ และนับวันสถิติตัวเลขการละเมิดสิทธิประชาชนในระดับผู้บริโภคยิ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องขายตรงที่มีการแอบแฝงซ่อนเร้น การกระทำความผิดในลักษณะแชร์ลูกโซ่มีผู้บริโภคในระดับฐานราก ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงขณะนี้มีการขายสินค้าทางออนไลน์ผิดกฎหมาย ซึ่ง สคบ.จะต้องเข้าไปดูแลป้องกันและปราบปราม โดยนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น