เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มี.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการเกิดเหตุระเบิด ที่สนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มี.ค.59 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายรายจาก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น และคาดว่าจะเป็นการก่อการร้าย ขณะเดียวกันภายหลังได้มีข่าวแพร่กระจายออกไปทำให้หลายประเทศ ตื่นตัวและมีการเฝ้าระวังเหตุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในครั้งนี้มากขึ้น โดยที่จังหวัดเชียงใหม่เช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานเชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 41 และผู้เกี่ยวข้องก็ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้นขึ้น โดยได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ทำการตั้งจุดตรวจรถผู้โดยสารและผู้ที่เดินทางเข้ามายังภายในพื้นที่ พร้อมทั้งได้มีการใช้อุปกรณ์เครื่องตรวจวัตถุระเบิดและการสุ่มตรวจค้นวัตถุต้องสงสัยภายในรถที่เดินทางผ่านยังจุดตรวจอีกด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการรักษาความปลอดภัยในเบื้องต้นที่จะดำเนินการไปจนกว่าเหตุการณ์จะสงบขึ้นในระยะหนึ่ง
ทั้งนี ทางด้าน นาวาอากาศตรี มณธนิก รักงาม รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวานที่ผ่านมานั้น ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ จึงได้มีการเพิ่มมาตรการเข้มข้นขึ้นในการเฝ้าระวังความปลอดภัย จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ได้มีมาตรการเข้มข้นเกี่ยวกับความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่จากการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้ต้องมีการเพิ่มมาตรการขึ้นจากปกติ โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในคือการเพิ่มวงรอบการตรวจการ เช่น การจัดชุดเจ้าหน้าที่และรถสายตรวจที่ออกตรวจตราโดยรอบท่าอากาศยาน นอกจากนี้แล้วยังได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด หรือ EOD เพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ดังกล่าวก็จะมีการเพิ่มวงรอบในการตรวจสอบพื้นที่เช่นเดียวกัน รวมทั้งมีการตรวจตราความเรียบร้อยพื้นที่โดยรอบด้วยรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่สายตรวจเช่นเดียวกัน
ขณะเดียวกันมาตรการภายในอีกเรืองคือทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจการและรักษาการ เช่น การสังเกตุพฤติกรรมของผู้ที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานที่มีความน่าสงสัย โดยใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ ของท่าอากาศยานในการช่วยสอดส่อง รวมทั้งการสังเกตุสิ่งของต้องสงสัยที่อาจจะมีคนหลงลืม หรือนำมาวางทิ้งไว้ ซึ่งในจุดนี้ก็ต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดขึ้นไป และอีกส่วนคือการแจ้งเหตุในเรื่องที่ไม่ปกติโดยทันที นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจยานพาหนะ โดยยานพาหนะต่างๆ ที่จะมาจอดที่บริเวณด้านหน้าอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยาน หากไม่มีคนขับ หรือผู้ที่อยู่ภายในรถก็จะไม่อนุญาตให้ทำการจอดโดยเด็ดขาด
และสำหรับมาตรการภายนอกนั้น ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้มีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ภายในจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ มณฑลทหารบกที่ 33 ในการช่วยรักษาความปลอดภัย รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทหารจากกองบิน 41 รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ ในการที่จะประสานงานด้านการปฎิบัติทั้งหมดโดยรอบท่าอากาศยาน
รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะเดียวกันในช่วงของเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นช่วงของเทศกาลท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวกันเปฌ็นจำนวนมากนั้น ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ ก็ได้มีการวางมาตรการที่สอดคล้องกับมาตรการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทางท่าอากาศยานเชียงใหม่และท่าอากาศยานทั้งหมดในประเทศไทยก็ถือว่ามีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจ และพนชร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น