รพ.มะเร็งลำปางอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งฯ

นายแพทย์สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งลำปางเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ“อบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีด้วยเครื่อง อัลตราซาวด์ สำหรับรังสีแพทย์และแพทย์ทั่วไปภายใต้โครงการ : กำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็ง ท่อน้ำดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นครองราชย์ครบ 70 ปี ในปีพุทธศักราช 2559 พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษาตลอดจน ในปีพุทธศักราช 2560 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2559 ณ ห้องประชุมนายแพทย์สุรทัศน์ พงษ์นิกร อาคารรังสีรักษาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง

รศ. นพ. ณรงค์ ขันตีแก้ว หัวหน้าโครงการแก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (CASCAP) มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงที่มาของโครงการดังกล่าวว่า จากรายงานสถิติโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี จะเห็นว่าโรคมะเร็งตับและท่อน้ำดีเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของคนไทย

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งลำปาง กล่าวถึงสถิติโรคมะเร็งในปัจจุบันว่า สำหรับประเทศไทย อัตราการป่วยด้วยโรคมะเร็งตับในเพศชายสูงเป็นอันดับหนึ่ง อัตรา 33.9 รายต่อประชากร 100,000 ราย ส่วนเพศหญิงพบเป็นอันดับสาม อัตรา 12.9 ราย ต่อประชากร 100,000 ราย รองจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดีพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือของประเทศไทย ในเพศชายพบมากเป็นอันดับหนึ่ง อัตรา 36.7 รายต่อประชากร 100000 ราย สำหรับเพศหญิงโรคมะเร็งตับพบมากเป็นอันดับ 4 อัตรา 13.3 ราย ต่อประชากร 100000 ราย รองมาจาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ

โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ภายใต้กรมการแพทย์ มีหน้าที่ในการสนับสนุนการดำเนินงานคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี จึงได้จัดทำโครงการสนับสนุนเขตบริการสุขภาพที่ 1 เพื่อแก้ไขปัญหาพยาธิใบไม้ในตับและมะเร็งท่อน้ำดีโดยมีกิจกรรมการดำเนินงานอบรมพัฒนาบุคลากรในการตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีและสนับสนุนบุคลากรตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 1 เพื่อให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เป้าหมายได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดี และทำให้สามารถค้นหาผู้ที่มีผลผิดปกติจากการตรวจคัดกรองได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งเป็นการช่วยลดการเสียชีวิตและลดภาระค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากมะเร็งท่อน้ำดี