นับตั้งแต่ที่มีนักกีฬารัสเซียระดับสากลหลายรายที่ไม่ผ่านการตรวจหาสารกระตุ้นและได้รับโทษแบน

นับตั้งแต่ที่มีนักกีฬารัสเซียระดับสากลหลายรายที่ไม่ผ่านการตรวจหาสารกระตุ้นและได้รับโทษแบน ทำให้วงการกีฬารัสเซียโดนเพ่งเล็งเรื่องการใช้สารกระตุ้น และส่อโดนแบนจากการแข่งขันในระดับโลก รวมถึงการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ที่จะถึงนี้ด้วย แต่เพียงไม่นาน วงการกีฬาก็ต้องช็อคซ้ำเมื่อ มาเรีย ชาราโปว่า นักเทนนิสสาวสวยชื่อดังจากแดนหมีขาวก็มีผลตรวจหาสารกระตุ้นเป็นบวกในการแข่งออสเตรเลียน โอเพนอีกราย

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ด้านลบให้กับวงการกีฬารัสเซียมากขึ้นไปอีก รวมๆ แล้วตอนนี้มีนักกีฬารัสเซียราว 16 รายแล้ว ที่มีผลตรวจหาสารกระตุ้นเป็นบวก ส่วนใหญ่ล้วนมาจากการใช้ยาเมลโดเนียมทั้งสิ้น
หลังตกเป็นข่าว ชาราโปว่าได้ออกมาแถลงข่าวยอมรับว่า เธอไม่ผ่านผลการตรวจหาสารกระตุ้นเมลโดเนียม ซึ่งเป็นตัวยาที่เธอได้ใช้ตามคำสั่งของแพทย์ประจำครอบครัวมาตลอดด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ โดยไม่ทราบว่ายาดังกล่าวเพิ่งถูกหน่วยงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นสั่งห้ามแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ศกนี้ อย่างไรก็ดี ชาราโปว่ากล่าวว่า เธอยินยอมรับผิดในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และหวังว่าจะมีโอกาสหวนคืนวงการอีกครั้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาสปอนเซอร์อย่าง ไนกี้, พอร์ช และแทค ฮอยเออร์ ถอนตัวจากการเป็นผู้สนับสนุนของเธอ เช่นเดียวกับองค์การยูเอ็นที่ตัดสินใจถอนชาราโปว่าออกจากตำแหน่งทูตสันถวไมตรีของหน่วยงานในทันที
ยาเมลโดเนียมเป็นยาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคหัวใจ แต่มีนักกีฬานำมาใช้เพื่อเพิ่มสมรรถนะภาพทางกีฬา และความทนทานให้กับร่างกาย แต่เดิมยาตัวนี้เป็นยาต้องห้ามในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว ส่วนผู้ผลิตยาในประเทศแลตเวียเผยว่า ยาเมลโดเนียมใช้ระยะเวลาหลายเดือนกว่าที่ร่างกายจะกำจัดออกได้หมด
อย่างไรก็ดี ทางด้านอดีตหัวหน้าหน่วยงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นแสดงความเห็นว่า ถือว่าชาราโปว่าเพิกเฉยไม่ใส่ใจต่อการแจ้งรายชื่อยาต้องห้ามเอง จึงไม่อาจถือเป็นข้อแก้ตัวได้ เพราะทางหน่วยงานได้มีการแจ้งต่อนักกีฬาทุกรายถึง 5 ครั้ง โดยสหพันธ์เทนนิสสากลได้แจ้งเรื่องนี้ 3 ครั้ง ขณะที่สมาพันธ์เทนนิสสตรีได้แจ้งอีก 2 ครั้ง
อดีตหัวหน้าหน่วยงานต่อต้านการใช้สารกระตุ้นยังมองว่า การแจ้งเตือนดังกล่าวได้แจ้งตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. นั่นแสดงว่านักกีฬาหรือทีมงานมีเวลาถึง 3 เดือนในการรับทราบและระงับการใช้ ทั้งนี้นักกีฬาส่วนใหญ่มักมีทีมแพทย์ส่วนตัวอยู่แล้ว การไม่ดำเนินการใดๆ ตลอดระยะเวลาดังกล่าวจึงถือว่าเป็นความเพิกเฉยอย่างมาก
ขณะที่คนในวงการเทนนิสหลายรายจะไม่ค่อยมีใครแสดงความเห็นใจชาราโปว่า มีเพียงเพื่อนซี้อย่าง เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ที่ยังคงเข้าข้างชาราโปว่าและมองว่าการออกมาแถลงข่าวถือเป็นการกระทำที่กล้าหาญ
โดยทั่วไปแล้ว นักเทนนิสที่ใช้สารกระตุ้นอาจจะโดนแบน 4 ปีหรือมากกว่านั้น แต่ด้วยการแก้ตัวด้วยเหตุผลดังกล่าว และชื่อเสียงที่ชาราโปว่ามีต่อวงการอาจทำให้โทษแบนของเธอถูกลดลง คงต้องรอดูอีกทีว่าวงการเทนนิสจะมีบทลงโทษอย่างไรต่อเจ้าหญิงของวงการต่อไป

ซือเจ๊

ร่วมแสดงความคิดเห็น