แนะผู้ประกอบการเชียงใหม่ ขยายช่องทางธุรกิจแฟชั่นสู่ตลาดนานาชาติผ่านฮ่องกง

ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานสัมมนาหัวข้อ ขยายช่องทางธุรกิจแฟชั่นสู่ตลาดนานาชาติผ่านฮ่องกง โดยมี นางสาวดวงรัตน์ พงศ์ชัยโชค ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง เป็นผู้ให้การบรรรยาย ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) จังหวัดเชียงใหม่

นางสาวดวงรัตน์ กล่าวว่า เนื่องจากว่าฮ่องกงมีเศรษฐกิจการค้าค่อนข้างแข็งแรง เคยอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษเพราะฉะนั้นอังกฤษจึงมีการทำธุรกิจกับฮ่องกงค่อนข้างมาก ซึ่งในตอนนั้นฮ่องกงเองมีทรัพยากรค่อนข้างมาก ต่อมาด้วยเหตุที่ว่าฮ่องกงเป็นเกาะเล็กๆใช้ทรัพยากรแล้วหมดไป แต่ฮ่องกงมีจุดเด่นสำคัญอยู่อย่างหนึ่งคือฮ่องกงเป็น Partners หรือพันธมิตรของจีนซึ่งจีนมีทรัพยากรมากมีการทำธุรกิจกับจีนมากขึ้น ฮ่องกงจึงเปลี่ยนกลยุทธ์ของตัวเองจากเมื่อก่อนจะ Export หรือส่งออกสินค้าของตนเองไปต่างประเทศอย่างเดียว แต่ผันตัวเองเป็น Trader หรือผู้ค้า คล้ายกับพ่อค้าคนกลางในการที่จะนำสินค้าจากทางจีนซึ่งทางจีนมีความแข็งแกร่งในเรื่องของต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างถูก รวมถึงสินค้าประเภทเสื้อผ้าจากจีน ทุกอย่างจะเป็น Made in China ก็คือฮ่องกงนั้นจะนำสินค้าจากจีนนั้นมาทำแบรนด์ใหม่ หรือ ทำ Marketing การตลาดใหม่ส่งออกไปต่างประเทศ ต่อมาต้นทุนจากจีนนั้นไม่ถูกอีกต่อไป พวกเสื้อผ้าจึงเริ่มหาโรงงานในประเทศอื่นไม่ว่าจะเป็นประเทศ กัมพูชา เวียดนาม หรือแม้กระทั่งประเทศศรีลังกา

ตอนนี้จึงกลายเป็นว่านักธุรกิจประกอบการของโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คือไม่ได้มองที่ต้นทุนการผลิตอีกต่อไป คือเขาต้องการอะไรที่เป็นแบรนด์ว่ามียี่ห้อไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อถูกอย่างไรก็ตามแต่ขอให้เป็นยี่ห้อ คือตามจริงคนที่ไปซื้อสินค้า เพราะ Consumer ผู้ผลิตจากทางจีน ไม่รู้หรอกว่าร้านนี้ใช้สินค้าจากประเทศไหน อย่างเช่น Outlet จากประเทศอื่น ๆ เขาภูมิใจที่ซื้อสินค้าที่เป็นแบรนด์ ดังนั้นถ้ามองในเรื่องของคนที่จะไปหาต้นทุนการผลิตที่ถูกก็ยังมีแต่ว่าเขาต้องมาทำแบรนด์ของตัวเองเพื่อที่จะนำไปขายต่อ แต่ถ้าหากไปรับเขามาแล้วขายไปเลย แต่ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว คือต้องการสินค้าที่มียี่ห้อ ต้องบอกว่าผู้ผลิตทางเอเชียในส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็น ไต้หวัน หรือจีน เวลาที่พวกเขาจะซื้อสินค้าก็จะไปที่ฮ่องกงก่อน เพราะว่าฮ่องกงมีสินค้ามากมายหลากหลายรวมทั้งสินค้าแบรนด์ด้วยไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าและอาหาร รวมถึงเรื่องราคาของสินค้ามีราคาที่ถูก ส่วนนี้จึงทำให้เศรษฐกิจของฮ่องกงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นางสาวดวงรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จึงทำให้มีบริษัทจากหลายชาติใช้ฮ่องกงเป็น Headquarter จุดศูนย์กลาง ในการที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดเอเชีย ในเรื่องของการทำธุรกิจแฟชั่น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Uniqlo ความจริงอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น แต่มาตั้ง Office ที่ฮ่องกงทำไม ซึ่งความจริงเป็นแบรนด์ที่ขายดีอยู่แล้ว พอขยายตลาดไปต่างประเทศ จึงต้องการให้คนในท้องถิ่นมาบริหารงาน โดยการตั้งบริษัทที่เป็นสำนักงานแม่อยู่ในประเทศนั้น การทำธุรกิจแฟชั่น ฮ่องกงเป็นผุ้นำแฟชั่น เมื่อฮ่องกงทำอะไรจีนก็จะทำตาม อย่างเช่นสินค้าประเภทอาหาร เช่น ตอนนี้ฮ่องกงฮิตร้านนี้คนจีนก็จะบินมาทานและนั่งรถไฟมาทานร้านนี้โดยเฉพาะ ก็เหมือนกับว่าเชียงใหม่กำลังเป็นที่ฮอตฮิตสำหรับคนจีนมากคือมีนักท่องเที่ยวเข้ามาช๊อปปิ้งหรือมาทานอาหาร
“ในปัจจุบันคนไม่ต้องการซื้อสินค้าที่มีราคาถูกอีกต่อไป แต่ต้องการซื้อสินค้าที่เป็นแฟชั่นซึ่งตอนนี้สินค้าราคาถูกและสินค้าราคาแพงจะขายดี ส่วนสินค้าราคากลางขายได้ยากมาก เพราะว่ามีช่องทางการซื้อ หรือ กลุ่มผู้ผลิตที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งหากคนที่ต้องการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพเขาก็จะซื้อสินค้าที่มีระดับสูงขึ้นไป ในขณะที่คนที่มีรายได้ไม่มากนัก หันไปเลือกสินค้าที่มีราคาถูกลงมาพอที่จะมีกำลังซื้อ ทางออกของทางฮ่องกง คือ เขาทำการตลาดสินค้าประเภทนี้ เขาแนะนำให้บริษัทท้องถิ่นติดแบรนด์ลงไปและขายในราคาที่เป็นระดับสูงขึ้นมาตอนนี้สินค้าประเภทออนไลน์ Shopping ไม่ค่อยได้รับความนิยมมาก แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจจะสามารถเป็นสินค้าออนไลน์ได้ อย่างเช่น ธุรกิจประเภทอาหารยากมาก เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ บรรยากาศตามร้าน เพราะฉะนั้นสินค้าประเภทอาหารจะค่อนข้างยากที่จะพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องของออนไลน์หากเปรียบเทียบเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า” ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าวในที่สุด.