พ่อตาสุดเหี้ยม ลั่นลูกซอง ดับลูกเขยทหาร ยิงเจ็บไม่หนำใจตามยิงซ้ำ รับฉุนทะเลาะเมีย-แย่งลูก สำนึกผิดคอตกเข้ามอบตัว

พ่อตาจอมโหด เปิดศึกทะเลาะลูกเขยทหาร สั่งห้ามไม่ให้มายุ่งกับลูกสาวและหลานชายอีกหลัง แยกครอบครัวไปนานแล้วและอยู่ในระหว่างฟ้องหย่า ฝ่ายเขยไม่ยอมชักปืนขู่ พ่อตาแค้น คว้าปืนลูกซองยิงใส่ลูกเขยเจ็บวิ่งหลบหนี ยังไม่หนำใจตามไปกระหน่ำยิงซ้ำอีก 3 นัดดับคาที่ หลังก่อเหตุพ่อตากลัวความผิดเดินคอตกมอบตัวกับตำรวจ ขอชดใช้กรรมที่ก่อขึ้น

2-1

เหตุการณ์ครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 4 มี.ค. 59 โดยทาง ร.ต.อ.ประสิทธิ์ โพชะจา พนักงานสอบสวน สภ.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีเหตุชาวบ้านยิงกันที่ และในเวลาต่อมาทาง นายศรีหมื่น แก่นขาว อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 2 ต.ป่าแป๋ อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ลงมือก่อเหตุได้เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ซึ่งได้รับว่าได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวก่อเหตุยิง จ.ส.ต.สันติพงศ์ ริค้า อายุ 31 ปี เป็นทหารสังกัดกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นลูกเขยเสียชีวิต ที่บริเวณถนนในหมู่บ้าน หมู่ 2 ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง เชียงใหม่ หลังจากทราบเรื่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ พร้อมกับรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลแม่แตง เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ได้พบศพผู้เสียชีวิตคือ จ่าสิบตรีสันติพงศ์ นอนอยู่ริมถนน อยู่ในลักษณะนอนตะแคงด้านขวา ถูกอาวุธปืนยิบเข้าตามลำตัวและแขนหลายนัด

2
จากการสอบสวน นายศรีหมื่น ผู้ต้องหาที่เดินทางเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การรับสารภาพว่า จ.ส.ต.สันติพงศ์ นั้นเป็นคนจังหวัดเชียงราย และได้มาแต่งงานกับลูกสาวได้หลายปีแล้ว และมีลูกด้วยกัน 2 คน ซึ่งต่อมาได้ไปช่วยราชการที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยระยะหลังได้มีปากเสียงทะเลาะกับลูกสาวตนบ่อยครั้ง จนถึงขั้นเลิกกัน และขณะนี้ก็อยู่ในช่วงของการฟ้องหย่า แต่ก็ได้แยกทางกันอยู่แล้ว ก่อนเกิดเหตุจ่าสิบตรีสันติพงศ์ ได้เดินทางมาที่บ้านของนายศรีหมื่น เวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน ซึ่งเป็นยามวิกาล และบอกว่าจะมารับลูกชายสองคนไปเที่ยว แต่เมื่อมาถึงก็ไม่พบลูกชายทั้งสองคน จึงได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับนายศรีหมื่นอย่างรุนแรง เพราะนายศรีหมื่น ไม่อยากให้ จ.ส.ต.สันติพงศ์ มายุ่งกับครอบครัวตนอีก

 
จากนั้นช่วงกลางดึก จ.ส.ต.สันติพงศ์ ได้เดินไปที่รถ พร้อมกับหยิบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 มม. ออกมาจากรถเพื่อนำมาข่มขู่ ตนจึงได้คว้าอาวุธปืนลูกซองยาวที่อยู่ใต้ถุนบ้านยิงไปก่อน 1 นัด กระสุนปืนถูกที่แขนของ จ.ส.ต.สันติพงศ์ และทำให้อาวุธปืนตก จากนั้นก็ได้วิ่งหลบหนี ซึ่งนายศรีหมื่น นั้นได้วิ่งตามไป พร้อมกับยิงอาวุธปืนไล่หลังไปด้วยอีก 3 นัด ทำให้ จ.ส.ต.สันติพงศ์ นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น กระทั่งได้รอถึงตอนเช้า จึงได้มามอบตัวดังกล่าว หลังการสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ฆ่าคนตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และยิงปืนในที่ชุมชน สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” จากนั้นได้นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น