สอนวิธีมัดใจลูกค้า ทำแบรนด์ติดในใจ

ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย
ชาคริต ดิเรกวัฒนชัย

กูรูด้านการตลาดแห่งประเทศไทยสอนวิธีมัดใจลูกค้าให้กับผู้ประกอบการชี้ต้องสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจของผู้บริโภค พร้อมเน้นเรื่องบริการหลังการขายที่ดี ขณะที่้ย้ำจุดยืนในการเป็นองค์กรที่ภาพลักษณ์ที่ดี มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ในชุมชน

คณะบริหารธุรกิจ ร่วมกับสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จัดงานวันนักการตลาดสัญจร…ภาคเหนือ ครั้งที่ 10 Theme: Marketing @ Heart เพื่อกระตุ้นให้นักการตลาดในภาคเหนือได้มารวมตัวทำความรู้จักกัน และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนให้ทราบถึงแนวคิด และกลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่ช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด อันเกิดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สิริวุฒิ บูรณพิร คณบดี คณะบริหารธุรกิจ มช. และนายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดงาน ณ ห้องเอราวัณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ผ่านมา
ภายในงานมีการให้ความรู้ที่น่าสนใจ อาทิ เรื่องมัดใจลูกค้า : Relationship (เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายจากความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า) จากนายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย การบรรยายเรื่อง มัดใจลูกค้า โดย นายณัฐพัชญ์ วงษ์เหรียญทอง และช่วงสุดท้าย การบรรยายเรื่องให้ใจลูกค้า : Giving True Value (ส่งมอบคุณค่าจากใจถึงใจ) โดย ดร.แสงสุข พิทยานุกุล

นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการมัดใจลูกค้าว่า ต้องมัดใจด้วยการเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภค ซึ่งการเป็นแบรนด์ในใจนั้นเราต้องเริ่มที่ความเข้าใจในผู้บริโภค เพราะปัจจุบันนี้ผู้บริโภคมีโอกาสในการรับรู้ข้อมูลสูงและมีทางเลือกของสินค้าสูงเช่นกัน การเปลี่ยนใจจึงเกิดขึ้นง่าย ดังนั้นการมีแผนการตลาดที่ตอบสนองสิ่งที่ลูกค้าต้องการจึงเป็นการมัดใจลูกค้าที่ดีที่สุด

ทั้งนี้นักการตลาดต้องเข้าใจลูกค้าว่า ในขณะที่เขาอยู่ในสถานะต่าง ๆ เขาจะมีพฤติกรรมที่ต่างกัน ก่อนที่เขาจะซื้อสินค้าใด ๆ เขาเป็น ผู้บริโภค (Consumers) เพราะเขาจะเปิดใจรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ จากสื่อก่อนที่เขาจะซื้อสินค้านั้น ๆ เขาจะเปิดใจดูโฆษณาและหาข้อมูลไปเรื่อย ๆ และเมื่อเขาเริ่มจับจ่ายช๊อปปิ้งสินค้าเขาก็จะอยู่ในสถานะของ ผู้ซื้อ

(Shoppers) Shopper จะมีข้อมูลสินค้าที่เพียงพอแล้ว และกำลังเลือกซื้อสิ่งของที่ดีที่สุดและพร้อมที่จะตัดสินใจซื้อได้ทุกเมื่อ นักการตลาดจึงต้องมีข้อเสนอที่ดีให้ลูกค้า ณ จุดขาย เพื่อให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าของท่าน และเมื่อซื้อสินค้าไปแล้ว เขาก็จะกลายเป็น ลูกค้า (Customers) เมื่อลูกค้าได้ซื้อสินค้าไปแล้วท่านจะต้องมีบริการหลังการขายที่ดี มีการติดต่อสื่อสารเรื่องราวของสินค้ารวมถึงการติดต่อกลับไปอวยพรวันเกิดเป็นต้น เพื่อมัดใจลูกค้าให้พึงพอใจกับท่าน คราวต่อไปลูกค้าก็จะเลือกสินค้าท่านอีก

ในขณะเดียวกัน สิ่งที่สำคัญอีกเรื่องคือการเป็นองค์กรที่ภาพลักษณ์ที่ดี ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและเห็นว่าองค์กรของท่านมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ในชุมชน ลูกค้ามองว่าการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร เพราะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นองค์กรที่เป็นคนดี ลูกค้าย่อมจะอุดหนุดบริษัทที่เป็นคนดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น