เผยตัวเลขพิษภัยแล้ง สูญเม็ดเงินกว่าหมื่นล้าน

นายสุรพงษ์  เจียสกุล
นายสุรพงษ์ เจียสกุล

ได้รับผลกระทบมากกว่า 2.7 แสนราย เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกได้ตามฤดูกาล ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเกษตรตามมา โดยปี 58 มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ภาคเหนือได้รับผลกระทบมากที่สุด มูลค่าความเสียหาย 6,955 ล้านบาท

นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2558 ส่งผลต่อปริมาณน้ำต้นทุนที่เก็บกักใน 33 เขื่อนหลักและอ่างต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งปริมาณฝนที่ตกลงมาน้อยกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้หลายพื้นที่จะต้องประสบปัญหาภัยแล้งทั้งในและ นอกเขตชลประทาน มีน้ำไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพด้านเกษตรกร รวมทั้งอาชีพอื่นๆ ที่ใช้น้ำมากได้รับผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งจากการติดตามของศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจพบความเสียหายครอบคลุมพื้นที่ 2.87 ล้านไร่ (ข้อมูล ณ 17 มีนาคม 2559) เกษตรกรได้รับผลกระทบ 272,743 ราย
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานพื้นที่ที่เข้าหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2556 กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูกมีพืชตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง โดยช่วยเหลือตามพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินรายละ 30 ไร่ ในอัตรา ดังนี้ ข้าว ไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ ไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆ ไร่ละ 1,690 บาท ซึ่งสำรวจพบความเสียหายแล้วคิดเป็นปริมาณผลผลิตที่เสียหาย 6.10 ล้านตัน มูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 15,514.65 ล้านบาท วงเงินช่วยเหลือทั้งสิ้น 3,226.05 ล้านบาท
เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกร กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูกมีพืชตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิงดังกล่าว กรณีแยกตามภูมิภาค พบว่า ภาคเหนือได้รับผลกระทบมากที่สุด มูลค่าความเสียหาย 6,955.91 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 45 ของมูลค่าความเสียหายรวม รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่าความเสียหาย 6,240.80 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ของมูลค่าความเสียหายรวม

ร่วมแสดงความคิดเห็น