เอกชนกลัวภัยแล้งรุนแรง บวกศก.ทรุดไม่กล้าลงทุน

e397b4f768a89b2952ac07868a30cdf2
นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สศอ.เผยเอกชนไม่กล้าลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องและภัยแล้งที่รุนแรง ฉุดเอ็มพีไอเดือน ก.พ.59 หดตัว 1.62% เมื่อเทียบ ก.พ.58 พร้อมคาดการณ์ทั้งปีจะอยู่ที่ 2.5% ด้าน กกร.เตรียมหารือ 4 เม.ย.ประเมินจีดีพีอีกครั้ง

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ในเดือน ก.พ.2559 หดตัว 1.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายยังไม่กล้าที่จะเริ่มลงทุนมากนัก ทั้งนี้ สถานการณ์ภัยแล้งยังรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้ออย่างมาก

อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีมีการปรับตัวลดลง ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ มีการผลิตลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.11% อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า มีการผลิตลดลง 12.76% และการบริโภคเหล็กของไทยลดลง 5.18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นการไหลเข้าของเหล็กสำเร็จรูปจากจีน อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง 0.87% โดยอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง 2.43%
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของเอ็มพีไอในเดือนนี้ เมื่อนำไปเทียบกับเดือน ม.ค.2559 ที่หดตัว 3.5% จะถือว่าในเดือนนี้มีการปรับตัวของแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ยังมีการคาดการณ์เอ็มพีไอทั้งปีจะอยู่ที่ 2.5% ขณะที่จีดีพีภาคอุตสาหกรรมที่ 2%

อัตราของกำลังผลิตมีการยกระดับเพิ่มขึ้นเป็น 65.7 ในรอบ 11 เดือน เนื่องจากในเดือน ก.พ.-มี.ค. จะมีการเร่งผลิตเพื่อกักตุนไว้ขายในเดือน เม.ย.นี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยคาดว่าหลังจาก เม.ย.ไปแล้ว กำลังการผลิตจะลดลง

นอกจากนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบในประเทศยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.62% โดยอุตสาหกรรมที่ส่งผลบวกต่อดัชนีอุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร โดยมีการเพิ่มขึ้นด้านการผลิตที่ 2.1% และการส่งออกในภาพรวมเพิ่มขึ้นเป็น 4.4%

อุตสาหกรรมเครื่องเพชรพลอยและรูปพรรณการผลิตเพิ่มขึ้น 33.07% ซึ่งเพิ่มขึ้นในเกือบทุกรายการสินค้า ดังนี้ สร้อย, ต่างหู, แหวนและจี้ ผลิตภัณฑ์พลาสติก การผลิตเพิ่มขึ้น 11.33% ผลิตภัณฑ์ยาง การผลิตเพิ่มขึ้น 9.17% และส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบสำหรับยานยนต์ และเครื่องยนต์ การผลิตเพิ่มขึ้น 3.36% โดยมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในเดือน มี.ค.นี้

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรอย่างมาก ซึ่งทำให้กำลังซื้อในประเทศลดลง โดยกระทบเฉพาะในภาคอีสาน และภาคเหนือตอนบน ซึ่งในวันที่ 4 เม.ย.59 นี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะมีการประชุมเพื่อเตรียมประเมินสถานการณ์จีดีพีใหม่ โดยให้ความเห็นว่าอาจจะมีการทรงตัวของค่าจีดีพีที่ 3-3.5% โดยมีแนวโน้มไปทาง 3% เนื่องจากผลกระทบทางด้านภัยแล้งยังคงรุนแรง ซึ่งจะต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง.

ร่วมแสดงความคิดเห็น