วิกฤติอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ จ.เชียงใหม่

แล้งหนัก (3)

สถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ แล้งหนักจริง ๆ ส่งผลกระทบต่อปลาในอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้อยู่ในระดับวิกฤติ ลดลงจนเห็นตัวปลาบึก จนผู้นำชุมชนและคณะกรรมการหมู่บ้านตัดสินใจ จับปลาในอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่มีอายุราว 20 กว่าปี แต่ละตัวหนักกว่า 80 กิโลกรัม โดยชาวบ้านบอกว่าน้ำแห้ง หากปล่อยไว้ก็ตาย ไม่มีที่เลี้ยง การจับปลาไปขายครั้งนี้เพื่อเป็นเงินหมู่บ้าน

ด้าน ผศ.ดร.บัญญัติ มนเทียรอาสน์ คณบดีคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ได้เจรจากับผู้นำชุมชนอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ ขอให้ชะลอการจับปลาบึกชั่วคราว และขอรับบริจาคปลาบึกบางส่วน จากชุมชนฯ จะสามารถบริจาคให้คณะประมงฯ ในบางส่วน โดยทางคณะประมงฯจะนำมาเพาะเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์เพื่อการศึกษา ส่วนปลาส่วนที่เหลือนั้นให้เป็นตามมติ กก.ชุมชนฯ เห็นชอบ

สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ นั้น เป็นอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรบริเวณที่จะทำการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้ ในเขตบ้านปง ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ งานชลประทาน ดังนั้นอ่างเก็บน้ำห้วยโจ้จึงได้มีประโยชน์ในหลายๆด้าน เช่น เป็นแหล่งน้ำอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร

เมื่อปัญหาภัยแล้งยังคงเกิดขึ้นทุกปีและเป็นปัญหาหลักของประเทศ ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจึงต้องด าเนินการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน โดยการการนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับระบบน้ำทั้งหมด เช่น การบริหารทรัพยากรน้ำ การส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม การชลประทาน น้ำบาดาล การปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร มาบูรณาการบริหารจัดการน้ำที่ยั่งยืนและจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อผลในระยะยาว ควบคู่ไปกับการพิจารณาจัดตั้ง “กระทรวงทรัพยากรน้ำ” เพราะภัยแล้งเป็นปัญหาภัยธรรมชาติที่มนุษย์ไม่อาจควบคุมได้ แต่จะสามารถบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ขาดแคลน

ร่วมแสดงความคิดเห็น