แข็งทุกทีม! ซิโก้ไม่หวั่น พร้อมสู้พิสูจน์

“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นายใหญ่ทีมชาติไทย มั่นใจ การแบ่งสาย เวิลด์ คัพ โซนเอเชีย ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย วันที่ 12 เม.ย.นี้ หนักอย่างแน่นอน เพราะรู้ดีว่าทัพ “ช้างศึก” เป็นทีมวางบ๊วยของรอบนี้ แต่ตั้งใจจะทำงานให้หนักกว่าเดิม อีกทั้งไม่กลัวหากต้องเจอกับทีมระดับพระกาฬ เพราะต้องการให้ลูกทีมเล่นอย่างสมศักดิ์ศรี ทำให้พวกที่เคยดูถูกขุนพลจากฝั่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา กลับมามองทีมเสียใหม่

สืบเนื่องจากในวันที่ 12 เม.ย.นี้ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย จะมีการจับสลากแบ่งสายศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย อย่างเป็นทางการ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เวลา 16.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมาเลเซีย ที่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย เผยก่อนที่จะมีการจับสลากแบ่งสายในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับรอบที่สาม ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ว่า

“การจับสลากครั้งนี้ผมคิดว่าอยู่ที่โชคชะตาเข้ามามีส่วนด้วย เพราะในรอบนี้มีแต่คำว่าหนักมากหรือน้อย ไม่มีคำว่าเบา เพราะเราเป็นทีมบ๊วยในรอบ 12 ทีมสุดท้าย อย่างโถ 1 ที่มี ออสเตรเลีย กับ อิหร่าน และโถ 2 มี เกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น ทำให้ผมมองว่าเราจะเจอกับทีมระดับ ต้นและกลางของเอเชียอย่างปฏิเสธไม่ได้”

ในเรื่องที่ทีมชาติไทยอยู่ในโถที่ 6 ก่อนการจับสลากครั้งนี้ เมื่อแบ่งสายออกมาแล้ว จะต้องเจอกับ 5 ทีมระดับยอดพระกาฬของทวีปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ซิโก้” บอกว่า “ในวันนี้เรารู้ดีว่าเราคือบ๊วยในรอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่เราจะต้องทำการบ้านให้หนักกว่าเดิม เพื่อผลงานที่ดีในทุกนัดที่ลงสนาม แม้ว่าการเก็บคะแนนอาจจะเป็นสิ่งที่ยาก แต่เราต้องเตรียมทีมให้ดีและหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเราไม่ใช่ทีมเต็ง”

“เราโชคดีที่เราทำงานกันมาอย่างหนักตลอด 3 ปี แต่มันต้องเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าแฟนบอลอาจจะฝันถึงการที่ทีมชาติไทยได้ไปเล่นฟุตบอลโลก แต่เราต้องเดินหน้าไปด้วยกัน หากว่ามีโอกาสไปได้ในปี 2018 ก็ต้องทำ ซึ่งเป็นการลุ้นในด้านจิตใจ แต่ภาคปฏิบัติผมกับนักเตะรวมถึงทีมงาน จะเป็นผู้ลงมือทำ”

แม่ทัพ “ช้างศึก” ยังได้เสริมในเรื่องการเจอกับยอดทีมระดับแนวหน้าของทวีปว่า “การที่ทีมชาติไทยจะไปเล่นในฟุตบอลโลกอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพียงแต่เราต้องขยับมาตรฐานของทีมในการต่อกรกับทีมในเอเชีย อย่างเช่นที่เราอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ ซึ่งในวันนั้นสื่อมวลชนของพวกเขาต่อว่าทีมตัวเองอย่างมาก ทว่าเรากลับได้รับเสียงชื่นชมแม้ว่าจะแพ้ก็ตาม”

หากเราสามารถต่อกรกับทีมยักษ์ใหญ่ได้ ในอนาคตผมก็มั่นใจว่าหลายทีมในโลกนี้อยากจะเชิญเราไปอุ่นเครื่องด้วย ฉะนั้นเราจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด และจะต้องไม่กลัวกับทีมไหน ซึ่งต้องทำให้คนที่เคยดูถูกทีมเราหันกลับมามองเสียใหม่”

“อีกทั้งผมไม่ได้กดดันเลยในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ตรงกันข้ามหากว่าเจอกับทีมอาเซียน ทั้ง กัมพูชา หรือ ลาว อาจจะมีความกดดันมากกว่า เนื่องจากการเล่นกับทีมแนวหน้าของเอเชียเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเราไม่มีอะไรต้องไปกลัว ถ้าผลออกมาแพ้ก็ต้องเล่นให้สมศักดิ์ศรี เหมือนตอนที่ผมคุมทีมปรีโอลิมปิก ที่ทำให้เห็นว่าเราสามารถต่อกรทีมเหล่านั้นได้เช่นกัน