ขบวนช่างฟ้อนเชียงใหม่ สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ฟ้อนสมโภชพระบรมธาตุดอยสุเทพ ไหว้สาพญามังราย ฉลอง 720 ปีสร้างเมืองเชียงใหม่สุดอลังการเต็มบันไดนาค มูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพจัดยาวถึง 16 เมษายน ท่ามกลางนักท่องเที่ยวสนใจเข้าชมอย่างเนืองแน่นด้านข่วงสามกษัตริย์ จัดงานใหญ่ นางรำ-ครูดาบ ร่วมฟ้อนบูชาพญามังราย กว่า 200 คน ประชาชนและหน่วยงานเกี่ยวข้องพร้อมใจเข้าร่วม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและบ้านเมืองเนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์
เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ราชวรวิหาร อ.เมืองเชียงใหม่ พระธรรมเสนาบดี เจ้าอาวาส และรองเจ้าคณะภาค 7 เป็นประธานในพิธีสมโภชพระบรมธาตุดอยสุเทพ เฉลิมฉลอง 60 รอบนักษัตร 720 ปีเชียงใหม่ โดยมีนายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีผู้แทนจากสำนักพระราชวัง (พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์) นายอุทัย ฤาชัย อดีตปลัดจังหวัดสุโขทัย กรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ นายณรงค์ เหล็กสมบูรณ์ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และนายบุญทัน ทาหาร กำนันตำบลสุเทพ นำชาวชุมชน 15 แห่ง พร้อมกลุ่มพัฒนาสตรี กลุ่มแม่บ้านแต่งกายชุดฟ้อนเล็บ เกล้ามวยผมสวยงามเข้าร่วงพิธีนับพันคน
พระธรรมเสนาบดี กล่าวว่า วันอังคารที่ 12 เมษายน 2559 ครบรอบ 60 นักษัตร 720 ปีนพบุรีศรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าวันเกิดของนครเชียงใหม่ในอดีตตรงกับวันนี้ และเป็นวันอังคารเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น คนรุ่นปัจจุบันที่ได้แสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณ ต่อบูรพมหากษัตริย์ เจ้าผู้ครองนคร พระมหาเถระที่ได้ร่วมกันสร้างบ้านสร้างเมือง และเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้ามาในล้านนาไทย จึงเป็นวาระสำคัญอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนตื่นตัว และได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ และความภาคภูมิใจร่วมกันทั้งในเขตเมือง และที่วัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ซึ่งที่วัดได้สร้างพระบรมรูปพญามังรายพร้อมพิธีเทวาภิเษกครบถ้วน ในช่วงวันที่ 10-16 เมษายนนี้เปิดให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวชมนิทรรศการ 720 ปี นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ และร่วมสัการะ ถวายน้ำสรง (น้ำขมิ้น ส้มป่อย) แด่พญามังรายพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันครบรอบ 720 ปี ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ในภาคเช้ามีพิธีบวงสรวงสังเวย เทพยดา อารักษ์ ที่ปกปักษ์รักษาเมืองเชียงใหม่ และวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ภาคบ่ายประกอบพิธีกล่าวยื่นโยงโองการ พระบรมธาตุดอยสุเทพฯ ภาคค่ำ พระสงฆ์ 12 รูป สวดทักษิณานุปทาน ถวายแด่พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย จนถึงเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ โดยมีศรัทธาหัววัดต่าง ๆ และจากหมู่บ้านในตำบลสุเทพแห่เครื่องสักการะ ร่วมถวายน้ำสรงพระบรมรูปพญามังรายอย่างหนาแน่น โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวยุโรป และขาวจีนให้ความสนใจเข้าชมขบวนการฟ้อนรำถวายพญามังราย โดยเฉพาะที่บันไดนาคตั้งแต่ชั้นแรก จนถึงขั้นที่ 306 มีการฟ้อนรำเพื่อสมโภชพระบรมธาตุจากช่างฟ้อน 15 ชุมชนของตำบลสุเทพนับพันคนแล้วยังมีช่างฟ้อนจากอำเภอสันป่าตองมาร่วมด้วย นับเป็นวันที่สองของการชุมนุมช่างฟ้อนเล็บเมืองเหนือเพื่อแสดงออกทางวัฒนธรรมอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตามงานพิธีสมโภชฯจะมีไปจนถึงวันที่ 16 เมษายนนี้ เชิญชวนผู้เดินทางมาเชียงใหม่ได้ร่วมพิธีทุกวัน
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานข่วงหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้มีการจัดพิธียอสวยไหว้สา พระญามังราย ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงใหม่ในแบบล้านนา ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 12 เมษายนของทุกปี ซึ่งถือว่าวันนี้เป็นวันสถาปนาเมืองเชียงใหม่ ซึ่งปีนี้มีความพิเศษในการเป็นปีที่ครบรอบ 720 ปีเมืองเชียงใหม่ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 1,000 คนนำโดย นายปวิญ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายก อบจ.เชียงใหม่ โดยมีเจ้าชายการัณทีป สิงห์ (Maharajkumar rana shi arandeep Singh Saher Dholpur) แห่งรัฐ Rajasthan ประเทศสาธารณรัฐอินเดีย ได้ร่วมงานในครั้งนี้ด้วย
โดยเครือข่ายชุมชนรักษ์เมืองเชียงใหม่ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประชาชน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ พาครอบครัวมาได้แต่งกายในชุดพื้นเมืองพร้อมทั้งถือข้าวตอกดอกไม้ ตุง มาเข้าร่วมพิธี ทั้งนี้ในขบวนยังได้มีการแสดงตีกลองสะบัดชัย กลองไชยมงคล กลองตึงนง กลองก้นยาว พร้อมด้วยขบวนฟ้อนรำอย่างสวยงาม ร่วมกันเดินขบวนตามแบบวัฒนธรรมล้านนามาจากบริเวณประตูช้างเผือกเข้ามายังอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เพื่อร่วมกันประกอบพิธียอสวยไหว้สาพระญามังรายหรือการมาสักการะพญามังรายเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและบ้านเมืองเนื่องในโอกาสประเพณีสงกรานต์ โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก
การพิธีสักการะพระญามังราย ได้มีการเตรียมเครื่องสักการบูชาแบบพื้นเมือง ซึ่งพิธีจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลาเวลา 08.09 น. ซึ่งเป็นมงคลฤกษ์ โดยจะมีการฟ้อนเล็บจากนางรำทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่อายุ ตั้งแต่ 4ขวบขึ้นไปจนถึง 74 ปี กว่า 100 คน นอกจากนั้นในวันนี้ยังมีพ่อครูล้านนาและลูกศิษย์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ จากทั่วภาคเหนือ มารวมตัวกันมากที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น และได้มีการรำดาบ ฟ้อนเชิง ไหว้สาบูชา พระญามังราย พระญางำเมือง และพ่อขุนรามฯ ร่วมกันอย่างสวยงาม โดยแต่ละคนจะมีรูปแบบการร่ายรำแตกต่างกันตามวิชาแต่ละสายครูอาจารย์ ที่สืบทอดต่อกันมา
โดยหน้าอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ได้มีการจัดถวายอาหาร 9 อย่าง ผลไม้ 9 อย่าง และเครื่องสักการะบูชาแบบล้านนา ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมในการทำตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ทั้งเครื่องถวายดอกไม้กลิ่นหอมที่ทำจากใบเตย หมากสุ่มหมากเบ่ง หมากผึ้ง หมากเทียน ที่ทำโดยการนำ หมาก ธูป เทียน ขี้ผึ้ง มาประดิษฐ์ให้มีความสวยงามและปักไว้ที่ต้นกล้วย ที่บ่งบอกถึงความเป็นล้านนาโดยจะมีบางจังหวัดในเพียงพื้นที่จังหวัดภาคเหนือเท่านั้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น