ผู้ปลูกลำไยน่านเฮ! เอกชนรับกว้านซื้อ

b.4“ฟูด เมกเกอร์”กว้านซื้อลำไย 3 อำเภอ ในจังหวัดน่าน หนุนเกษตรกรหลายพันรายในรูปแบบเกษตรพันธสัญญา หรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง เผยนำมาแปรรูปเป็นน้ำลำไย น้ำลำไยผสมเนื้อลำไย พร้อมเปิดตลาดวางขายเจาะลูกค้าระดับบนที่ริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ตเชียงใหม่, ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต, วิลล่ามาร์เก็ต และแม็กซ์แวลู ขณะเดียวกันเตรียมส่งออกไปยังยุโรป และอเมริกา

นายชัยนันท์ หาญยุทธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูด เมกเกอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจรับซื้อลำไยสด ซึ่งบริหารงานโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด ธัญชนกพืชผล และธุรกิจแปรรูปลำไยอบแห้ง น้ำลำไย ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “ฟูด เมกเกอร์” โดยผลผลิตส่วนใหญ่จะรับซื้อจากสวน 3 อำเภอ ในจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว, อำเภอท่าวังผา และอำเภอเชียงกลาง ซึ่งบริษัทจะเข้าไปส่งเสริมเกษตรกรหลายพันรายในรูปแบบเกษตรพันธสัญญา หรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ด้วยการให้ความรู้เรื่องการปลูก การบำรุงรักษา การกำจัดศัตรูพืช ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ได้ลำไยคุณภาพดี

ทั้งนี้ปัจจุบันลำไยสดบางส่วนจะส่งไปจำหน่ายให้พ่อค้าจากจีน และป้อนเข้าสู่โรงงานแปรรูป อบแห้ง เพื่อส่งออกไปยังจีน ซึ่งตลาดตอบรับดีมาก และแปรรูปเป็นน้ำลำไย น้ำลำไยผสมเนื้อลำไย เพื่อเจาะตลาดระดับบน ล่าสุดเตรียมบริษัทนำสินค้าวางจำหน่ายที่ริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ตเชียงใหม่, ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต, วิลล่ามาร์เก็ต และแม็กซ์แวลู รวมถึงการส่งออกไปยังยุโรป และอเมริกา โดยได้เข้าเจรจากับคู่ค้าที่ยุโรปแล้ว เพื่อส่งออกน้ำลำไย คาดว่าจะสามารถส่งออกได้ในเร็วๆ นี้

นอกจากนี้จะส่งข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง ไปเจาะตลาดร้านอาหารที่มีสาขาจำนวนมากในไทย และจะส่งออกไปยังญี่ปุ่นด้วย เพราะตลาดญี่ปุ่นมีความต้องการข้าวโพดหวานจากไทยจำนวนมาก โดยแนวโน้มจะเน้นการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีโอกาสทางธุรกิจ และจะเดินหน้าส่งเสริมเกษตรกรชาวสวนลำไย ข้าวโพดหวาน ในจังหวัดน่าน ให้อยู่อย่างยั่งยืน มีรายได้ที่ดี พัฒนาคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกลำไยออร์แกนิค ขณะนี้เกษตรกรให้ความสนใจ 200-300 รายแล้ว

“จังหวัดอื่นมีปัญหาเรื่องโรงคัดบรรจุ (ล้ง) จีน มาเหมาซื้อลำไยยกสวน จับเกษตรกรเซ็นสัญญาแบบถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่จังหวัดน่านไม่มีลักษณะนี้เกิดขึ้น เป็นผลมาจากเกษตรกรเข้มแข็ง การที่บริษัทไปรับซื้อและให้ความรู้การปลูกก็เป็นผลดีต่อเกษตรกร ผลผลิตมีมาตรฐานที่สูงขึ้น มีตลาดรับซื้อที่แน่นอน มีราคาที่พอรับได้ การแปรรูปก็จะเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม”นายชัยนันท์ กล่าว

สำหรับสถานการณ์ลำไยในจังหวัดน่าน ปี 2559 นี้ผลผลิตจะออกสู่ตลาดใกล้เคียงปี 2558 คือประมาณ 50,000 ตัน ปัจจัยเสี่ยงเรื่องภัยแล้งยังคงเป็นปัญหาที่จะทำให้ลำไยมีคุณภาพต่ำลง ทำให้ขนาดของลูกไม่เป็นไปตามที่ตลาดต้องการ โดยเฉพาะเกรด AA ผลผลิตจะมีน้อยลง โดยปี 2559 นี้คาดว่าบริษัทจะรับซื้อลำไย รวมถึงการนำลำไยมาแปรรูปทั้งหมดประมาณ 18,000 ตัน โดยมีความต้องการลำไยพันธุ์สีทองมากที่สุด

อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงงานแปรรูปลำไยแห่งใหม่ ใกล้กับโรงงานเดิม ใช้เงินลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสาย (ไลน์) การผลิตน้ำลำไยเป็น 3,000 ขวดต่อชั่วโมง จากเดิมมีกำลังการผลิต 1,000 ขวดต่อชั่วโมง ขณะนี้ยังไม่สามารถลงทุนได้ เพราะติดปัญหาเรื่องผังเมืองและการขอใบอนุญาต รง.4

ทั้งนี้หากสร้างโรงงานได้ก็จะเป็นการรองรับการส่งออกในอนาคต เนื่องจากบริษัทต้องการปรับสัดส่วนการส่งออกให้อยู่ที่ 50% ของกำลังการผลิต เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และอีก 50% จะจำหน่ายในไทย เพราะปัจจุบันสัดส่วนการส่งออกยังน้อย นอกจากนี้เตรียมเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เช่น น้ำลิ้นจี่ เพื่อเจาะตลาดคู่กับน้ำลำไย โดยตั้งเป้าภาพรวมธุรกิจเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% และปี 2559 นี้ตั้งเป้ารายได้รวมประมาณ 300 ล้านบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น