ปล่อยขบวนรถ มปอ.ลดอุบัติเหตุ

3มปอ.รณรงค์
รองพ่อเมืองเชียงใหม่ เป็นประธานปล่อยขบวนรถรณรงค์ของ มปอ. ในโครงการ “กลับบ้านปลอดภัย คนไทย เมาไม่ขับ” หวังลดอุบัติเหตุเจ็บตายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีการเฉลิมฉลองแล้วขับรถโดยประมาท ด้านรองพ่อเมืองสั่งเข้มเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย หวั่นสถิติพุ่ง ส่วนจังหวัดอื่นๆยังเกิดอุบัติเหตุต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2559 เวลา 10.00 น. ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถรณรงค์เคลื่อนที่ของโครงการ “กลับบ้านปลอดภัย คนไทย เมาไม่ขับ” ที่ดำเนินงานโดยมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) ในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ในปี 2559 ซึ่งได้ดำเนินการจัดการรณรงค์โดยแบ่งกิจกรรมเป็น 2 รูปแบบ คือ การประชาสัมพันธ์ด้วยรถรณรงค์เคลื่อนที่และการออกบูธเพื่อรณรงค์ให้รู้จักดื่มอย่างรับผิดชอบและให้บริการตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์เบื้องต้น แก่ประชาชนผู้สัญจรบนท้องถนนสายรองใน จ.เชียงใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนอันเกิดจากสาเหตุเมาแล้วขับ

ทั้งนี้ โครงการกลับบ้านปลอดภัย คนไทย เมาไม่ขับ เป็นโครงการรณรงค์เพื่อสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม ในเรื่องของ “เมาไม่ขับ” และสร้างให้เกิดจิตสำนึกของการดื่มอย่างรับผิดชอบในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยจัดขึ้นครอบคลุม ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.พะเยา และ จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จำนวนมาก อีกทั้งคนในพื้นที่ที่ไปทำงานต่างจังหวัดจะกลับมาฉลองเทศกาลปีใหม่ไทยที่บ้านเกิด โดยโครงการนี้ครอบคลุม ระยะเวลาดำเนินการระหว่างมกราคม – เมษายน 2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในพื้นที่ ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบของการเมาแล้วขับ อีกทั้งยังเสริมสร้างในคนในชุมชนได้แสวงหาแนวทางในการระดมความคิดเห็น และวางแนวทางปฏิบัติ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบของแต่ละชุมชนเพื่อร่วมลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับในชุมชนของตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นอกจากนี้ นายมงคล สุกใส รอง ผวจ.ชม.เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ จ.ชม. พ.ศ.2559 ในวันที่สอง (12 เม.ย.59) ที่ห้องประชุม 2 สนง.ปภ.จ.ชม. เพื่อรับรายงานสถานการณ์การป้องกันแก้ไขปัญหาและหารือแนวทางในการบริหารจัดการที่เป็นอุปสรรค ซึ่งสาเหตุหลักมาจากเมาสุรา และให้ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองในระยะนี้ การเดินทางเป็นหมู่คณะ พร้อมกันนี้ได้แจ้งตักเตือนการดื่มสุราในสถานที่ราชการแม้แต่บ้านพักของทางราชการที่อยู่ในสถานที่ราชการ พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ และใช้รถใช้ถนนด้วยความไม่ประมาทและไม่ขาดสติ

โดย นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถิติจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 12 เมษายน 2559 ทั้งสิ้น 26 ครั้ง ซึ่งมากกว่าปี 2558 ถึง 11 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 25 คน ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุยังคงเกิดจากการเมาสุรา และรถจักรยานยนต์ยังคงเป็นพาหนะที่ประสบอุบัติเหตุสูงสุด อุบัติเหตุสะสม 2 วัน 45 ครั้ง สูงที่สุดในประเทศ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสม 3 ราย และจำนวนผู้บาดเจ็บสะสม 48 คน เป็นสถิติที่เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2558 ทั้งจำนวนอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ

227309

จากสถิติที่เกิดขึ้น 2 วันที่ผ่านมา เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากถนนสายหลัก หรือถนนกรมทางหลวงและเป็นถนนทางตรงเนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาในการเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ แต่จากวันที่ 13 – 15 เมษายน 2559 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกันเน้นด่านชุมชน / หมู่บ้าน โดยจะต้องมีด่านชุมชนครบทั้ง 2,066 หมูบ้าน / ชุมชน เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเฉลิมฉลอง และเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมกันดูแลตามสัญญาประชาคมหมู่บ้าน เมาไม่ขับ ช่วยกันสอดส่อง ดูแล ตักเตือน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองและถนนภายในหมู่บ้าน ทางด้านการบังคับใช้กฎหมายยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มาตรการจับจริง 10 ข้อหาหลักเมืองท่องเที่ยว มีการเรียกตรวจตามมาตรการ 10 รสขมแล้ว 11,456 คัน พบการกระทำผิดและดำเนินคดีจำนวน 3,839 คัน สำหรับมาตรการยึดรถตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ดำเนินการยึดรถแล้ว 210 คัน โดยเป็นรถยนต์ 38 คัน และรถจักรยานยนต์ 172 คัน และยังคงเข้มงวดในมาตรการพิเศษจังหวัดเชียงใหม่ ในมาตรการเส้นทางดอย 4 ดอย และมาตรการพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองเชียงใหม่ลำพูนชุ่มฉ่ำด้วยอุโมงค์หมอกน้ำ นักเที่ยวแห่ร่วมขบวนแห่สรงน้ำพระแน่นขณะที่สถิติ อุบัติเหตุ สะสม ยังไร้ตาย

ที่จังหวัดลำพูนผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดลำพูน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 เมษายน 2559 พบว่าถนนบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดลำพูนยังคงมีความชุ่มฉ่ำจากอุโมงค์หมอกน้ำที่ทางเทศบาลเมืองลำพูนจัดขึ้น ทำให้ความร้อนลดลงไปได้มาก แม้ว่า ปีนี้ทางเทศบาลงดเล่นน้ำคูเมืองอย่างเด็ดขาดเนื่องจากน้ำไม่สะอาดและแห้ง แต่ก็ยังมีปราชนออกมาเล่นสาดน้ำกันเป็นจุด ๆ ไม่มากเหมือนเช่นทุก ๆปีที่มีการเล่นน้ำคูเมือง ขณะเดียวกันบรรยากาศอำเภอรอบนอก อย่าง อ.ป่าซาง จ.ลำพูนก็มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์กัน บ้างบางส่วน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นน้ำประปาที่นำมาเล่นสาดกัน ขณะเดียวกัน ทาง นายณรงค์ อ่อนสอาดผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้ร่วมพิธีแห่พระพุทธรูป รอบเมืองลำพูนเพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สรงน้ำพระด้วยด้วย

วันเดียวกันที่ห้องประชุม มหันตยศศาลากลางจังหวัดลำพูน นายณรงค์อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2559 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์และร่วมกันวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุและกำหนดมาตรการเพิ่มเติมและสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติเพื่อให้การเกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนให้น้อยที่สุดซึ่งจะลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้มากขึ้นโดยวันแรกของการณรงค์ภายใต้ชื่อ “สงกรานต์ปลอดภัยส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” โดยใช้กลไกการดำเนินงานรูปแบบประชารัฐโดยมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 2 ของการรณรงค์ฯ เกิดอุบัติเหตุขึ้น 6 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 6 คนโดยยังไม่พบผู้เสียชีวิต

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวอีกว่าจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุสะสมทั้ง 13 ครั้งเป็นการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับจักรยานยนต์ทั้ง 13 ครั้ง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเมาสุราในขณะขับขี่ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามจุดตรวจหลัก จุดตรวจรอง จุดบริการและ ด่านชุมชน ปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งและตามมาตรการที่เกิดตลอดของการรณรงค์ฯพร้อมทั้งขอความร่วมมือสถานประกอบการในพื้นที่ชุมชนห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่เด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี และต้องจำหน่ายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น

227312

ที่จ.แม่ฮ่องสอน เล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดกว่า 40 องศา ส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกมากจากบ้าน เพราะทนร้อนกลางถนนไม่ไหว ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส

ประเพณีสงกรานต์ที่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ยังคงมีคนออกมาเล่นน้ำไม่มาก เท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่เล่นน้ำอย่างเรียบง่ายตามประเพณี ทั่ว ๆ ไป ไม่มีปะแป้ง สาดสี และไม่มีการใช้รถบรรทุกน้ำออกเล่นสาดเหมือนเดิม สาเหตุหนึ่งมากจากการตั้งด่านตรวจเข้ม คนขับหวั่นถูกจับและยึดรถ

บรรยากาศช่วงเที่ยงวันถึงบ่ายแก่ ๆ ตามท้องถนน ไม่ค่อยมีรถออกมาวิ่งเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดมาก อุณภูมิบริเวณท้องถนนร้อนจัดไม่ต่ำกว่า 45 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยที่ สถานีอุตุนิยมวิทยาแม่ฮ่องสอน วัดได้สูงถึง 41.5 องศาเซลเซียส

ส่วนที่สำนักงานหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.1 ม่วงต๊อบ ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ในหน่วย นำสปริงเกอร์มาติดตั้งให้เด็ก ๆ ได้เล่นน้ำคลายร้อน สร้างความสนุกสนานให้กับเด็กตัวเล็ก ๆ เป็นอย่างมาก

สรุปข้อมูลอุบัติเหตุ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ประจำวันที่ 13 เมษายน 2559 เกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ครั้ง- อำเภอเมือง 3 ครั้ง บาดเจ็บ ชาย 3 ราย – อำเภอปาย 1 ครั้ง บาดเจ็บ ชาย 1 ราย – อำเภอแม่สะเรียง 4 ครั้ง บาดเจ็บ ชาย 2 ราย หญิง 2 ราย

สรุปข้อมูลอุบัติเหตุ ตั้งแต่วันที่ 11-13 เมษายน 2559- มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 19 ราย แยกเป็น ชาย 15 ราย หญิง 4 ราย – ผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย สรุปสะสมตายอุบัติเหตุอื่นๆ

จำนวน 3 ราย 1.จมน้ำ 2 ราย( อ.แม่ลาน้อย .1, อ.สบเมย 1) สาเหตุจากสุรา 2.กินยาเกินขนาด 1ราย (อำเภอขุนยวม)

ที่จ.เชียงราย ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดเชียงราย สรุปรายงานการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2559 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2559 เกิดอุบัติเหตุ 18 ครั้ง บาดเจ็บ (Admit) 19 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 4 คน เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายทั้งหมด สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเมาสุรา

ผลการเรียกตรวจยานพาหนะตามมาตรการ 1ร. 2ส. 3ข. 4ม. มีการเรียกตรวจ รวม 6,035 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ 2,634 คัน รถกระบะ 1,476 คัน รถเก๋ง/รถแท็กซี่ 1,033 คัน รถตู้ 523 คัน รถโดยสาร 4 ล้อขึ้นไป 135 คัน รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป 69 คัน อื่นๆ 164 คัน พบว่า ไม่สวมหมวกนิรภัย 1,228 ราย จักรยานยนต์ไม่ปลอดภัย 39 ราย เมาสุรา 130 ราย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 330 ราย ไม่มีใบขับขี่ 499 ราย ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร 36 ราย ขับรถย้อนศร 14 ราย แซงในที่คับขัน 3 ราย ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ 4 ราย รวม 2,324 ราย ยึดรถตามมาตรการเมาแล้วขับ จำนวน 102 คันเป็นรถจักรยานยนต์ 76 น รถเก๋ง 3 คัน รถกระบะ 23 คัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น