“บรรหาร” อดีตนายกฯคนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว

180px-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3_%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B21[1]

สำนักข่าวหลายสำนักรายงาน เมื่อช่วงเช้าวันที่ (23 เม.ย.) ว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว เมื่อเวลา 04.42 น.ที่ผ่านมา ด้วยอาการสงบในวัย 83 ปี 8 เดือน หลังเข้ารับการรักษาตัวเนื่องจากอาการภูมิแพ้ หอบหืด กำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางศิริราชพยาบาล จะเป็นผู้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทางญาติจะมีการเคลื่อนศพไปวัดเทพศิรินทร์ในวันเดียวกัน

ประวัตนายบรรหาร ศิลปอาชา

             นายบรรหาร ศิลปอาชา เกิดวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 (บางแหล่งกล่าวว่าแท้จริงแล้วเกิดวันที่ 19 กรกฎาคม ปีเดียวกัน [1] แต่ที่ปรากฏตามทะเบียนราษฎร์คือวันที่ 19 สิงหาคม ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 6 คนของนายเซ่งกิม และนางสายเอ็ง แซ่เบ๊ เดิมมีชื่อว่า นายเต็กเซียง แซ่เบ๊ (马德祥)

             สมรสกับคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มีบุตร-ธิดารวม 3 คน เป็นชาย 1 คน คือ นายวราวุธ ศิลปอาชา (สมรสกับ เก๋-สุวรรณา ไรวินท์ ทายาทตระกูลไรวินท์ เจ้าของธุรกิจ ซุปไก่ก้อนรีวอง) และเป็นหญิง 2 คน คือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา และ น.ส.ปาริชาติ ศิลปอาชา

             นายบรรหารจบการศึกษาชั้นประถมที่จังหวัดสุพรรณบุรี เข้ากรุงเทพมาเรียนหนังสือชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัย แต่ต้องหยุดเรียนไป เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง หันไปทำงานกับพี่ชาย และก่อตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างเป็นของตัวเอง เป็นตัวแทนจำหน่ายคลอรีนให้กับการประปาส่วนภูมิภาค จนมีฐานะร่ำรวย

นายบรรหาร เข้าสู่วงการเมืองจากการชักชวนของนายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ตั้งแต่มีการก่อตั้งพรรคชาติไทยเมื่อ พ.ศ. 2517 โดยได้เป็น สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2517 และเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อ พ.ศ. 2519 และ ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาทุกสมัยที่มีการเลือกตั้ง ต่อมานายบรรหารขึ้นดำรงตำแหน่ง เลขาธิการพรรคชาติไทย ในปี พ.ศ. 2523

ตลอดเวลาที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายบรรหารได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง ได้แก่

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ (5 สิงหาคม 2529 – 3 สิงหาคม 2531)

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (4 สิงหาคม 2531 – 9 มกราคม 2533)

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (มกราคม 2533 – ธันวาคม 2533)

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (14 ธันวาคม 2533 – 23 กุมภาพันธ์ 2534)

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พลเอกสุจินดา คราประยูร (7 เมษายน 2535 – 9 มิถุนายน 2535)

ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 นายบรรหารได้ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติไทย และเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย และเมื่อได้มี พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2538 และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ นายบรรหาร ศิลปอาชา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีสมาชิกของพรรคได้รับเลือกตั้งจำนวนมากที่สุด ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทำให้นายบรรหารได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อีกตำแหน่งหนึ่งระหว่างเดือนกรกฎาคมพ.ศ. 2538 ถึง พฤศจิกายน พ.ศ. 2539

การบริหารราชการแผ่นดินในดำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายบรรหารดำเนินไปปีเศษ เกิดความไม่ราบรื่นจึงมีการยุบสภา เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2539 ทำให้นายบรรหารพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายบรรหารมีสมญานามมากมาย จากลักษณะเด่นหลายประการ เช่น มีฐานเสียงหนาแน่นอย่างที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี มีสถานะเป็นเจ้าถิ่นจนได้สมญาว่า “มังกรสุพรรณ” หรือ “มังกรการเมือง” และเนื่องจากมีลักษณะคล้าย เติ้งเสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีน สื่อมวลชนจึงนิยมเรียกนายบรรหารสั้น ๆ ว่า “เติ้ง” หรือ “เติ้งเสี่ยวหาร”

ขอบคุณข้อมูลจาก : คม ชัด ลึก

ข้อมูลประวัติจาก : https://sites.google.com/site/prawatinaykrathmntrithiy/home/prawati-phan-tarwc-tho-thaksin-chin-watr/prawati-nay-chwn-hlik-phay/prawati-phl-x-perm-tin-su-la-nnth/pra-wat-nay-brrhar-silp-xacha

ร่วมแสดงความคิดเห็น