นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในการเดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าในกิจกรรมโครงการต่างๆของรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทน์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันนี้(27 เมษายน 2559)ที่เชียงใหม่นั้น
ทางอำเภอได้รวบรวมข้อมูล ตลอดจนรายละเอียดของการบริหารจัดการหมอกควันไฟป่าในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม ซึ่งเป็นโครงการที่เรียกว่า”แม่แจ่มโมเดล” ซึ่งจริงๆแล้วแนวทางดังกล่าวทางอำเภอแม่แจ่ม ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม สถานศึกษาได้ร่วมกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยแผนงานจะแบ่งออกเป็น 3 มาตราการ ตั้งแต่ก่อนช่วงขอความร่วมมือเผา เพื่อเป็นการป้องกัน และช่วงขอความร่วมมือ (15 กพ.59-15 เม.ย.59 ) เป็นช่วงรับมือกับปัญหาและช่วงหลัง 60 วันห้ามเผา ซึ่งคือช่วงติดตามผล
ด้านนายวิจรณ์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ยืนยันว่า การจัดการปัญหาเชื้อเพลิงจากภาคการเกษตร โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพดราวๆแสนกว่าไร่ ส่วนที่เหลือทิ้งจากภาคการเพาะปลูกนี้ จะมีประมาณ เกือบแสนตัน มีต้น ตอและใบอีกกว่า 6 หมื่นตัน
วิธีการไถฝังกลบช่วยลดการเผาได้มาก ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน แนวทางดังกล่าวภาคเอกชน ผู้ประกอบการที่ร่วมส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวโพด รวมถึงเกษตรกรร่วมมือกันดี สามารถจัดการพื้นที่ได้ถึงหมื่นกว่าไร่
ในขณะที่เปลือกและซังข้าวโพด ประมาณ 4 หมื่นตัน นำไปเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ เป็นวิธีการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ที่หน่วยงานราชการกำลังพยายามเร่งขยายผลไปสู่พื้นที่เสี่ยง8-9 จังหวัด
นายอัฐ สมยศ นายกเทศมนตรีตำบลแม่แจ่ม เชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมมอบหมายนโยบายและการประสานความร่วมมือของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ในอำเภอแม่แจมนั้น นายอำเภอได้เน้นถึง การลดภาพที่แม่แจ่มเป็นจำเลยของสังคมทุกๆปี การเกิดปัญหาหมอกควัน สถิติต่างๆ ต้องมีแม่แจ่ม เป็นตัวอย่าง
ทั้งๆที่การดำเนินการ บริหารจัดการ ปัญหานั้นทุกๆอปท. เฝ้าระวัง ควบคุม ติดตามกวดขันการเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างใกล้ชิด แทบจะแบ่งพื้นที่ดูแลกันแบบไม่ปล่อยเลย ความพยายามสร้างจุดจัดการเชื้อเพลิงอัดแท่ง การนำไปใช้เป็นพลังงานทดแทนหรือการนำมาทำปุ๋ยอินทรีย์ ช่วยลดภาวะหมอกควันในเขตรับผิดชอบได้มาก
จุดความร้อนที่ตรวจพบ อาจเป็นช่วงหลังผ่อนผัน 60 วันห้ามเผา อาจมีการจุดเผา ทำลายเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปบ้าง เมื่อเกิดวิกฤติปัญหาในปีนี้ ในปีต่อๆไปก็จะกวดขัน คงมาตรการห้ามเผาอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งชาวแม่แจ่ม ร่วมใจกัน พร้อมที่จะขับเคลื่อน แม่แจ่มโมเดลให้เป็นต้นแบบจัดการปัญหาหมอกควันอย่างยั่งยืน เนื่องจากตระหนักถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ที่ติดตามมาอีกมากมาย
ร่วมแสดงความคิดเห็น