รุกพัฒนาบทบาท ผู้ผลิต-ส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตร

โครงการสัมมนา การพัฒนาบทบาทของผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าตามมาตรฐานบังคับหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โดยการออกใบอนุญาตผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับรมผลไม้สดด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หวังยกระดับมาตรฐานด้วยการควบคุม

นายอานัติ วิเศษรจนา รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนา การพัฒนาบทบาทของผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้าตามมาตรฐานบังคับหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และการมอบมอบใบอนุญาติ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้นำเข้า การออกใบอนุญาตผู้ส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตรตามาตรฐานบังคับรมผลไม้สดด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ หวังยกระดับมาตรฐานด้วยการควบคุม ตามมาตรฐานบังคับเผยยอดโรงรมซัลเฟอร์ฯ ลำไย ลิ้นจี่ในภาคเหนือ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 4 พ.ค. 59 นี้
นายอานัติ เปิดเผยว่า มกอช. ได้มอบใบอนุญาตให้กับผู้ผลิต ผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (มกษ. 1004-2557) ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2559 โดยล็อตแรกมีผู้ประกอบการโรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์สำหรับลำไยและลิ้นจี่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และตาก ได้รับใบอนุญาตตามมาตรฐานบังคับรวม 90 ราย ขณะเดียวกันยังได้ขึ้นทะเบียนและมอบใบอนุญาตให้กับผู้ส่งออกสินค้าลำไยและลิ้นจี่ตามมาตรฐานบังคับ รวม 90 บริษัท เพื่อควบคุมการรมลำไยและลิ้นจี่ด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และให้ผลไม้สดที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวมีคุณภาพและมีความปลอดภันต่อผู้บริโภค ทั้งยังควบคุมกระบวนการเตรียมของสถานประกอบการทุกแห่งไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ทั้งนี้ใบอนุญาตตามมาตรฐานบังคับมีอายุ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไปผู้ส่งออกนำเข้า และผู้ประกอบการโรงรมทุกแห่ง ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรฐานบังคับดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ก่อนที่จะส่งออกลำไยและลิ้นจี่สดทุกครั้ง ผู้ส่งจะต้องแจ้งการส่งออกโดยยื่นฟ้องพร้อมเอกสารหลักฐานได้ที่ มกอช. หรือด่านตรวจสินค้าเกษตรและสามารถยื่นผ่านช่องทางออนไลน์ คือ http://tas.acfs.go.th กรณีที่มีการแจกตัวอย่างสินค้าเพื่อตรวจวิเคราะห์สารตกค้างหรือมีการตรวจนอกสถานที่ผู้ส่งออกหรือผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด นอกจากนี้โรงรมซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ที่ไม่มีใบอนุญาตจะไม่สามารถประกอบธุรกิจและส่งออกลำไยและลิ้นจี่ได้ อย่างไรก็ตาม มกอช. จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบผู้ประกอบการโรงรม รวมถึงผู้ส่งออกและผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีรายใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและการเติมบัตรไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ. มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติมเบื้องต้นแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการเร่งปรับปรุงแก้ไขโดยเร็วๆ ถ้าหากยังเพิกเฉยและไม่ปฏิบัติตาม นอกจากจะไม่อนุญาตให้ส่งออกได้แล้ว อาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตหรือจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการต่อไป

มาตรฐานบังคับ มกษ. 1004 -2557 มีผลบังคับใช้คาดว่าผู้ประกอบการจะสามารถรมลำไยและลิ้นจี่สดด้วยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ได้อย่างถูกวิธี ทำให้ลำไยลิ้นจี่ส่งออกและสินค้าที่ป้อนเข้าสู่ตลาดมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการแจ้งเตือนปัญหาตรวจสอบการตกค้างและค่ามาตรฐานที่กำหนดจากการนำเข้าปลายทาง ช่วยสร้างความมั่นใจให้ประเทศคู่ค้ามากขึ้นและเป็นกลไกเสริมศักยภาพในการแข่งขันและผลักดันการส่งออกสินค้าลำไยและลิ้นจี่ของไทยไปต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต