ก.พลังงานส่งเทียบ รณรงค์ลดใช้ไฟฟ้า

กระทรวงพลังงาน ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมมือกันลดและประหยัดการใช้พลังงาน ผ่านกิจกรรมรณรงค์การลดใช้ไฟฟ้า ปฏิบัติการ 4 ป. “ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน” ขอให้ประชาชน ปิด-ไฟดวงที่ไม่จำเป็น ปรับ-อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศขึ้นเป็น 26 องศาเซลเซียส หรือปรับ Fan Mode รวมทั้ง ปลด-ปลั๊กอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้และเปลี่ยน-อุปกรณ์มาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ประหยัดพลังงาน
จากกรณีที่ได้มีการแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2559 เวลา 15.30 น. ณศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้สั่งการต่อที่ประชุมและได้เน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องการประหยัดพลังงานว่า ทุกปีประเทศไทยจะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยในปี 2558 ที่ผ่านมาเกิดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2559 เวลา 14.02 น. ณ อุณหภูมิ 36.7 องศาเซลเซียส อยู่ที่ระดับ 27,346 เมกะวัตต์ และปี 2559 กระทรวงพลังงานคาดการณ์ว่าจะมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 29,018 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ การรวมพลังคนไทยลดการใช้พลังงานในโครงการ “ปิด ปรับ ลด เปลี่ยน” นางสาวปาจรีย์ จินดากาญจน์ วิศวกรปฏิบัติการ กล่าวขอเชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมมือกันลดและประหยัดการใช้พลังงาน ผ่านกิจกรรมรณรงค์การลดใช้ไฟฟ้าสูงสุดลง คือ กิจกรรมกระทรวงพลังงานที่จะรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงานโดยการ “ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน” โดยขอให้ประชาชน ปิด-ไฟดวงที่ไม่จำเป็น ปรับ-อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศขึ้นเป็น 26 องศาเซลเซียส หรือปรับ Fan Mode รวมทั้ง ปลด-ปลั๊กอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ได้ใช้ และเปลี่ยน-อุปกรณ์มาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเบอร์ 5 ประหยัดพลังงาน กิจกรรมดังกล่าวได้มีการดำเนินการระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 20 พฤษภาคม 2559 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. – 15.00 น.

จังหวัดเชียงใหม่ จึงขอเชิญชวนขอความร่วมมือทุกภาคส่วนลดการใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะช่วงที่จะมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือ พีคของประเทศ โดยร่วมกันปฏิบัติการ 4 ป. “ปิด ปรับ ปลด เปลี่ยน” ในช่วงเวลา 14.00 น. – 15.00 น. อย่างเข้มข้น

นางสาวปาจรีย์ กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยังคงเฝ้าติดตามและเฝ้าระวังปริมาณการใช้ไฟฟ้า พร้อมกับการเดินหน้ารณรงค์ประหยัดไฟอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณการใช้ไฟฟ้สสูงสุด (พีค) ในปีนี้ทำลายสถิติตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุดมาแล้ว 2 ครั้ง คือ วันที่ 6 เมษาย 2559 อยู่ที่ 27,639.3 เมกะวัตต์ และ วันที่ 19 เมษายน 2559 อยู่ที่ 28,351.7เมกะวัตต์

“ขณะนี้อุณหภูมิอากาศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะร้อนยาวนานกว่าทุกปี โดยเฉพาะช่วงกลางวันอาจจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส จะเกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าเพ่มขึ้นประมาณ 230 เมกะวัตต์ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประเมิณว่าช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ จะทำลายสถิติตัวเลขการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอีกรอบอยู่ที่ 29,000 เมกะวัตต์ ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝน ที่จะทำให้อุณหภูมิอากาศเริ่มลดลง ก็จะทำให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าลดลงตามไปด้วย” นางสาวปาจรีย์ กล่าว