กลุ่มแรงงานรวมตัว ขอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ

b.6

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือและแรงงานข้ามชาติ รวมตัวเรียกร้องสิทธิ์และขอเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ต่อรัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เนื่องในวันกรรมกรสากล

ตัวแทนเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ กว่า 120 คน ประกอบด้วย มูลนิธิเพื่อสุขภาพและการเรียนรู้ของแรงงานกลุ่มชาติพันธุ์, มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา, สหพันธ์คนงานข้ามชาติ และองค์กรที่ทำงานการด้านส่งเสริมสิทธิด้านแรงงาน รวมตัวกันเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องใน วันกรรมกรสากล วันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่คนทำงานทั่วโลกได้รำลึกถึงการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในสังคม โดยในพื้นที่ภาคเหนือ แรงงานข้ามชาติส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้รับสิทธิตามที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนด ปัญหาด้านสุขภาพความปลอดภัยในการทำงาน การเข้าไม่ถึงระบบประกันสังคม เนื่องจากนายจ้างไม่ได้นำลูกจ้างขึ้นทะเบียนประกันสังคม และถูกจำกัดสิทธิ เสรีภาพในการเดินทาง และถูกเรียกรับผลประโยชน์

เครือข่ายแรงงานภาคเหนือ ได้เรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหา ด้านสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน การเข้าถึงสิทธิด้านแรงงานของคนงาน ให้มีการตรวจสอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทจัดหางานที่ผิดประเภทของแรงงาน ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนและออกใบอนุญาตทำงานให้เหมาะสม และขอให้รัฐบาลไทยรับรองอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและการคุ้มครองสิทธิในการรวมตัว การเจรจาต่อรอง และขอปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 421 บาทต่อวัน ทั่วประเทศ

ในส่วนของแรงงานข้ามชาติขอให้ทำงานได้ทุกอาชีพตามความสามารถ และขยายอายุคนทำงานจนถึง 60 ปี ให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ รวมถึง ให้ผู้ประกันตนมีสิทธิเลือกที่จะรับเป็น บำเหน็จชราภาพ หรือ บำนาญชราภาพได้ โดยไม่กำหนดอายุของผู้ประกันตน และขอให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขกฎระเบียบในการเดินทางของแรงงานข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน กลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูงให้มีเสรีภาพในการเดินทาง

โอกาสนี้ นายกฤษณ์ ธนาวณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รับข้อเสนอ จากตัวแทนเครือข่ายแรงงานภาคเหนือ เพื่อนำเสนอตามลำดับขั้นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น