กระตุ้นผู้ประกอบการเร่งเสริมแกร่งฮับบริการสุขภาพและความงาม แนะยึดเกาหลีโมเดล แตกไลน์สินค้าและบริการให้ครอบคลุมความต้องการที่เพิ่มขึ้น มั่นใจสร้างรายได้ให้ไทยเพิ่มขึ้นแน่ เผยเกาหลีแนะไทยรีบดำเนินการ หลังเห็นศักยภาพมีเหนืออาเซียนอื่น
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เร่งผลักดันการสร้างรายได้จากภาคบริการ โดยเฉพาะธุรกิจบริการด้านสุขภาพและความงาม ที่ไทยมีขีดความสามารถและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งสปา โรงพยาบาล ศัลยกรรมความงาม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยกำลังอยู่ระหว่างการผลักดันให้การเป็นศูนย์กลางของธุรกิจบริการสุขภาพและความงามในภูมิภาคของไทยมีความเข้มแข็ง เพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กรมฯ กำลังผลักดันให้ธุรกิจบริการสุขภาพและความงามมีการต่อยอดการให้บริการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ เพราะจะขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องขายทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และใช้บริการที่เดียวได้ทุกอย่าง หรือหาซื้อสินค้าที่เดียวแต่ได้ครบทุกอย่างที่ต้องการ
“อย่างเกาหลี ที่ประสบความสำเร็จในด้านสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพและความงาม เขามีการแตกไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบ อย่างศัลยกรรม เขาไม่ใช่แค่ทำเสริมสวย เสริมหล่ออย่างเดียว แต่มีสินค้าออกมาขายด้วย หรือเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ ก็ออกไลน์ที่ใช้สำหรับเด็ก สำหรับลูก เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ใช้ หรือการทำครีมชะลอความแก่ เพราะทุกวันนี้หลายๆ ประเทศกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งทุกอย่างนี้ไทยก็ทำได้ แต่ต้องปรับและทำในภาพรวมให้ได้” นางจันทิรากล่าว
นางลลิดา จิวะนันทประวัติ ผู้อำนวยการสำนักธุรกิจบริการและโลจิสติกส์การค้า กล่าวว่า เกาหลีได้เชิญประเทศอาเซียนไปดูงานด้านเครื่องสำอาง เพื่อแสดงศักยภาพให้เห็นว่าปัจจุบันมีการพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเกาหลีได้ให้คำแนะนำว่าไทยสามารถเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและความงามในอาเซียนได้ เพราะทุกวันนี้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิตเครื่องสำอาง สปา อยู่แล้ว แต่ต้องรีบทำ เพื่อชิงความได้เปรียบประเทศอาเซียนอื่นที่ขณะนี้หลายๆ ประเทศเริ่มให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจด้านนี้
“กรมฯ มีแผนที่จะเชิญอาเซียนอื่นให้เข้ามาดูงานในไทย เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพและการพัฒนาของไทย เพื่อให้สินค้าและบริการไทยเป็นที่จดจำ และเพิ่มความต้องการ ซึ่งจะทำไปพร้อมๆ กับการสร้างมาตรฐานให้กับสินค้า เพราะทุกวันนี้มีผู้ผลิตเยอะมาก จึงต้องทำให้มีมาตรฐาน ไม่เช่นนั้นจะแข่งขันได้ยาก และหากประเทศไหนมีโอกาส ทั้งการขายสินค้า ขายบริการความงาม ก็จะผลักดันให้ธุรกิจไทยออกไปค้าขาย หรือไปลงทุน”
นอกจากนี้ กรมฯ จะผลักดันให้ผู้ผลิตมีการสร้างเรื่องราวให้กับสินค้า เพราะการขายสินค้าทุกวันนี้ต้องสร้างความโดดเด่น สร้างที่มาที่ไปให้กับสินค้า เพื่อสร้างการจดจำให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามของไทยสามารถสร้างเรื่องราวได้ เพราะมีทั้งภูมิปัญญา มีนวัตกรรม ที่สั่งสมมาช้านาน ต้องดึงจุดแข็งออกมาให้ได้ เหมือนกับแบรนด์ดังๆ ระดับโลกต่างก็มีเรื่องราวของตัวสินค้า
ร่วมแสดงความคิดเห็น