เร่งปั้นพ่อค้าแม่ค้าภูธร เข้าสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ

b.2
กรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่ปั้นพ่อค้าแม่ค้าภูธรเข้าสู่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ หวังผลักดันให้เกิดธุรกิจ SMEs รายใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ พร้อมแนะผู้ค้าออนไลน์ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้อง ยืนยันการมีตัวตน และป้องกันปัญหาผู้บริโภคโดนหลอก

น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆ เพื่อจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาผู้ที่ต้องการเริ่มต้นประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ให้สามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้าขายสินค้า เพราะถือเป็นแนวทางใหม่ที่จะใช้เริ่มต้นทำธุรกิจได้รวดเร็ว มีต้นทุนไม่มาก แต่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มาก และทำให้เกิดธุรกิจ SMEs เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็ว โดยกรมฯ มีแผนที่จะลงพื้นที่ไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น หาดใหญ่ ชัยภูมิ ระนอง ชลบุรี เพชรบุรี เป็นต้น ในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ กรมฯ จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ โดยจะส่งคนลงไปช่วยสอนตั้งแต่ทฤษฎีการค้าขายออนไลน์ ไปจนถึงการช่วยสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้นำสินค้าเข้าไปขายในโลกออนไลน์ได้ แต่หากรายใดไม่ประสงค์จะมีเว็บไซต์เองก็จะผลักดันให้นำสินค้าเข้าไปขายในเว็บที่กรมฯ ดูแล คือ www.thaicommercestore.com ซึ่งถือเป็นหน้าร้านให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ของไทย

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองแล้ว กรมฯ ก็จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยการเชิญผู้เชี่ยวชาญไปให้คำแนะนำในการประกอบธุรกิจ การโชว์สินค้า การตั้งราคาสินค้า การส่งมอบสินค้า การพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นที่ดึงดูด และการผลักดันให้สินค้ามีช่องทางการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น การจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.thaicommercestore.com และเว็บไซต์ค้าออนไลน์ของห้างสรรพสินค้าที่เป็นพันธมิตรกับกรมฯ เช่น เทสโก้ โลตัส และเซ็นทรัล เป็นต้น

ส่วนธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่มีความเข้มแข็ง และต้องการที่จะขยายตลาดไปต่างประเทศ กรมฯ จะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำและพัฒนาสินค้าเพื่อให้สินค้ามีความเข้มแข็งและนำไปจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าในรูปแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) และยังได้มีช่องทางที่จะผลักดันให้สินค้าเข้าไปจำหน่ายในเว็บไซต์ อาลีบาบาดอทคอม ซึ่งขณะนี้มีความร่วมมือกับกรมฯ อยู่ด้วย

น.ส.ผ่องพรรณกล่าวว่า กรมฯ ขอแนะนำให้ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ต้องมายื่นจดทะเบียนกับกรมฯ ให้ถูกต้อง เพื่อยืนยันความมีตัวตน และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เพราะทุกวันนี้อี-คอมเมิร์ซมีการขยายตัวรวดเร็ว หากใครสร้างความน่าเชื่อถือได้ก็จะทำให้ธุรกิจขยายตัวได้เร็วขึ้น แต่หากไม่มีการจดทะเบียนให้ถูกต้อง ก็ขอให้ระวังว่าอาจจะเป็นธุรกิจที่ไม่หวังดี หรือมีการหลอกลวง ซึ่งผู้บริโภคควรเพิ่มความระมัดระวังในการซื้อขายหรือทำธุรกิจด้วย

“ทุกวันนี้มีพ่อค้าแม่ค้าขายผ่านเฟซบุ๊ก ไอจี หรือขายผ่านเว็บบอร์ดขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก และก็มีเป็นจำนวนมากที่มีปัญหาหลอกลวง ถูกหลอกซื้อขายสินค้าและบริการ หรือถูกโกง จะตามตัวก็ไม่ได้เพราะไม่มีตัวตน ซึ่งในส่วนของผู้ซื้อ กรมฯ ขอให้ตรวจสอบว่าผู้ขายมีการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีก็ไว้ใจได้ เพราะมีตัวตน ตามตัวได้ แต่ถ้าไม่จดทะเบียน ก็ให้ระวังไว้ก่อนเลยว่าอาจมีปัญหาได้ หรือถ้าถูกหลอกก็จะหาตัวได้ยาก” น.ส.ผ่องพรรณกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น