ชี้ชัดไฟป่าลาม ดอยสุเทพ-ปุย เกิดจากคนเผา

ตำรวจช้างเผือก พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยเข้าตรวจจุดเกิดเหตุที่บ้านม้งขุนช่างเคี่ยน เพื่อหาหลักฐานเอาผิดเพื่อดำเนินคดีและติดตามตัวเมืองเผาป่าดอยสุเทพทั้งหมด 4 จุดหลังจากที่ทางอุทยานเข้าแจ้งความ ชี้มีความเป็นไปได้สูงที่สาเหตุจะมาจากการเผาหาของป่าของราษฎรในพื้นที่ พร้อมหาเบาะแสเพิ่มเติมติดตามตัวคนร้าย เพื่อควบคุมตัวดำเนินคดีให้เป็นอุทธาหรณ์

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 พ.ค.59 ความคืบหน้ากรณีเไฟป่าครั้งใหญ่ที่ลุกไหม้พื้นที่ดอยขุนช้างเคี่ยน เขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก พร้อมด้วยตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ต้องใช้รถโฟร์วีลล์ เข้าพื้นที่ป่าของบ้านขุนช่างเคี่ยนเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตรเพื่อเข้าไปยังจุดที่ได้มีการระบุพิกัดไว้ในการเข้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุเผาป่า จนเป็นเหตุให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปีของพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาหลักฐาน และทำการเก็บภาพถ่าย ในจุดเกิดเหตุ เบื้องต้นทางด้าน พ.ต.ท.สมยศ วังเวียง พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่าจากการเข้าพื้นที่แม้ว่าจะยากที่จะหาหลักฐานที่เป็นวัตถุพยานที่จะสามารถสาวเอาผิดถึงตัวมือเผาได้ แต่ก็จะต้องมีการรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุดพร้อมกับประสานกับทางเจ้าหน้าที่ของทางอุทยานในการสืบสวนสอบสวน ขณะเดียวกันหลักฐานทางภาคพื้นดินก็จะนำไปประกอบกับภาพถ่ายทางอากาศที่จะระบุพิกัดที่เกิดเหตุ และจุดที่เชื่อว่าจะเป็นต้นเพลิงทั้ง 4 จุด ที่ชุดลาดตระเวน ไฟป่าของทางสำนัก 16 ได้ระบุไว้ว่าน่าจะเป็นจุดแรกๆ ที่พบการเกิดไฟป่าก่อนที่จะมีการลุกลาม หลังจากนี้ก็จะส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ชุมชนซึ่งพบว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านขุนช่างเคี่ยน ที่มีการเข้าออกป่าในการใช้ประโยชน์ เพื่อสืบหาตัวผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำต่อไป

ขณะที่ นายนพกร วัฒนสัตย์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ภายหลังจากที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือกไว้แล้ว จากการตรวจสอบตามพิกัดดาวเทียม มีจุดที่คาดว่าเป็นต้นเพลิง จำนวน 4 จุด เกิดจุดความร้อนในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับท้ายหมู่บ้านช่างเคี่ยน หมู่ที่ 4 ประกอบกับจากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านให้การว่า ได้รับแจ้งว่ามีเพลิงไหม้ จึงได้ระดมชาวบ้านเข้าดับไฟในพื้นที่ แต่เปลวไฟลุกลามเป็นวงกว้างยากที่จะดับจึงได้เพียงทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันการลุกลาม แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้จุดไฟดังกล่าว

สำหรับการตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ จะใช้ภาพถ่ายที่เกิดเหตุ เทียบเคียงกับภาพทางอากาศและภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อกำหนดพิกัดต้นเพลิง ในสวนของคดีได้มอบหมายให้ทางชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก ติดตามหาตัวผู้กระทำผิด โดยจะสืบสวนจากชาวบ้านและผู้ที่ทำการเกษตรในรอบพื้นที่ คดีในลักษณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่าเป็นการยากที่จะหาผู้กระทำผิด แต่หากได้รับข้อมูลและความร่วมมือจากชาวบ้าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เข้าปฏิบัติการในวันเกิดเหตุ ก็น่าจะเป็นแนวทางสืบสวนที่สามารถคลี่คลายคดี เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้เป็นอุทธาหรณ์ต่อไป