พายุคลั่ง ถล่มกลางดึก เชียงใหม่กระอัก สารภีอ่วมยางยักษ์โค่นเป็นแถบ ไฟดับยาวทั่วเมือง-อุตุฯเตือนต่อ

4

พายุฤดูร้อนมากลางดึก พัดถล่มเชียงใหม่ หลายพื้นที่พินาศยับ สายสารภีอ่วม ต้นยางยักษ์หักโค่นเป็นแถบ ไฟดับยาวทั่วเมือง เจ้าหน้าที่สนธิกำลังลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พบบ้านเรือนราษฎรพังเพียบ เร่งให้ความช่วยเหลือด่วน ขณะที่กรมอุตุฯ แจ้งเตือนต่อ พายุคลั่งพร้อมมาได้ทุกเมื่อ เตือนประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิด

3เมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 17 พ.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในตัวเมืองเชียงใหม่หลายแห่ง โดยมีฝนตก ฟ้าร้องและลมกรรโชกแรง เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะทำให้ในหลายพื้นที่ของตัวเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งพื้นที่อำเภอรอบนอกในหลายๆ จุดเกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างกินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง และส่งผลทำให้การสัญจรไปมาของประชาชนที่เดินทางบนท้องถนนเกิดการจราจรติดขัด เนื่องจากขาดแสงสว่างตามท้องถนน โดยเฉพาะบริเวณจุดที่เป็นแยกสัญญาณไฟจราจร ซึ่งในเวลาต่อมา หลังพายุฝนเบาบางลงทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รุดเข้าตรวจสอบความเสียหายและเร่งดำเนินการแก้ไขให้กลับสู่สภาวะปรกติ
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่าในพื้นที่ อ.สารภี ได้เกิดฝนตกและลมกรรโชกแรงในพื้นที่เช่นกันจนทำให้มีต้นไม้หักโค่น บริเวณบ้านดอนแก้ว (ถนนเลียบวัดตำหนัก) โดยทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบได้เร่งเข้าทำการเคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสัญจรไปมาของประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว นอกจากนี้ ยังทราบว่าที่บริเวณถนนสายต้นยาง เส้นทาง ถ.เชียงใหม่ – ลำพูน สายเก่า ตั้งแต่ พื้นที่ ต.หนองหอย อ.เมืองเชียงใหม่ ถึง ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี มีต้นยาง และ เสาไฟฟ้า ล้มหลายจุด รวมทั้งมีรถยนต์ และ อาคารบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายหลังเกิดลมพัดแรง ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น

2
และในเวลาต่อมา ภายหลังพายุสงบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันทำการตวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นทราบว่าเกิดความเสียหายหลายจุด ประกอบด้วย รถยนต์ ตกข้างทาง หน้าจงเจริญทัวร์ ถนนวงแหวนรอบ 3 , ต้นไม้ล้มทับรถยนต์ หน้าวิทยาลัยเทคนิคสารภี หนองผึ้ง , ต้นไม้ล้มทับบ้าน ในหมู่บ้านเศรษฐีกาญจน์ หนองผึ้ง , ต้นไม้ล้มขวางถนนหน้า ปตท.หนองผึ้ง , รถยนต์ชนเสาไฟกริ่ง รถตกลงในน้ำถนนเลียบรางรถไฟ ยางเนิ้ง , ต้นไม้ล้มขวางถนน เลยแยกกองทรายไปทางบวกครก 500 เมตร , รถยนต์เฉี่ยวชน รถ จยย. หน้า ปตท. ขาเข้าเมือง ถนน ชม – ลป. มีผู้บาดเจ็บ ฝ่ายรถยนต์หลบหนี , .รถยนต์ชนท้ายกัน 4 คัน รวด สี่แยกไฟแดงป่าแดด , ต้นไม้ล้มขวางถนน เลียบรางรถไฟบ้านเชียงแสน , กิ่งไม้หักทับรถยนต์เก๋งหน้า รร.กองทราย และมีเสาไฟขวางถนน 3 ต้น , .เสาไฟฟ้าล้ม ซอย ฟิชชิ่งปาร์ค หนองผึ้ง , ต้นขนุนหักโค่นทับสายไฟขวางถนน ในซอยต้นมะขาม ก่อนถึงทางลอดอุโมงค์หนองผึ้ง , ต้นไม้ล้มทับบ้าน ติดอยู่ในบ้าน ออกไม่ได้ ที่ร้านแอร์กลอนประตู หนองผึ้ง , ถนนสาย แยกกองทรายไปทางซินเซิง ทั้งสายไฟและเศษกิ่งไม้ มีอยู่เต็มถนน และนอกจากนี้ยังพบอีกหลายจุดได้รับความเสียหาย

1
ขณะเดียวกันจากการเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่ เป็นเหตุทำให้มีต้นไม้ใหญ่หักโค่นหลายจุด ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนแล้ว ส่วนในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่นั้นทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสำรวจและช่วยเหลือ ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ระมัดระวังพายุฤดูร้อน และลมกรรโชกแรงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้ โดยแนะนำว่าไม่ควรออกจากเคหสถานในช่วงเวลาที่เกิดพายุ เนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายจากต้นไม้ กิ่งไม้ ป้ายโฆษณาล้มทับได้
ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น. วันที่ 18 พ.ค.59 ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ตามถนนสายต้นยางหลังจากที่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาได้รับรายงานว่าเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด และมีพายุถล่ม เกิดกิ่งไม้หักโค่น ร่วมทั้งเสาไฟฟ้าล้มในหลายจุด ซึ่งเช้านี้ยังคงมีภาพความเสียหายให้ได้เห็นอยู่เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นภาพต้นไม้และกิ่งไม้หักโค่นทับบ้านเรือนประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในระแวกดังกล่าว รวมทั้งตึกหลายคูหาที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเข้าเคลียร์พื้นที่อย่างต่อเนื่อง และในเบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเกิดเหตุวาตภัยในช่วงค่ำที่เกิดขึ้นครั้งนี้แต่อย่างใด ส่วนค่าความเสียหายเบื้องต้นทราบว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท

5
นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ที่จังหวัดเชียงรายช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักและพายุลมพัดแรงในบางพื้นที่ของ จ.เชียงราย โดยในเขต ต.สันทราย อ.แม่จัน พบว่าได้มีพายุลมหมุนพัดกระหน่ำในบางจุดในเขตหมู่บ้านสันทราย ม.1 ต.สันทราย อ.แม่จัน พายุได้พัดบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเสียหายจำนวนประมาณ 30 หลังคาเรือน โดยความแรงของพายุได้พัดจนส่งผลกระทบเฉพาะบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นบางหลังเท่านั้น แต่เนื่องจากมีความแรงจึงทำให้หลังที่ถูกลมพัดได้รับความเสียหายอย่างหนักโดยส่วนใหญ่หลังคาและฝาบ้านถูกพัดจนเปิดโล่่งด้านบนออกทำให้คนในบ้านต้องวิ่งหนีกันจ้าระหวั่น ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเสียหายเพราะลมฝน โดยเฉพาะบ้านเลขที่ 113 บ้านสันทราย พบว่าหลังคาและฝาบ้านถูกยกไปทั้งแถบโดยเศษหลังคาสังกะสีและฝาบ้านถูกพัดไปตกห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตร
ขณะที่วัสดุสิ่งของต่างๆ ที่กระแสลมพัดผ่านถูกพัดกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณโดยเฉพาะถังน้ำ เสาคอนกรีต หลังคา เศษไม้ กิ่งไม้ ฯลฯ บริเวณอาคารสาธารณประโยชน์ข้างวัดสันทราย นอกจากนี้พายุยังพัดเอาเสาไฟฟาบนถนนสายสันทราย-บ้านแหลว ก่อนถึงเทศบาล ต.สันทราย จนโค่นหักและล้มลงทั้งแถบจำนวน 13 ต้น ทำให้กระแสไฟฟ้าในบริเวณดังกล่าวดับลงทั้งหมด หลังเกิดเหตุชาวบ้านที่ถูกพายุต้องพาครอบครัวและขนย้ายข้าวของไปหลบอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยจนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงพายุจึงสงบลง
นางนันทา ประเสริฐ อายุ 58 ปีชาวบ้านเลขที่ 113 บ้านสันทราย กล่าวว่าช่วงเกิดเหตุตนและหลานรวมจำนวน 4 คนนอนอยู่บนบ้านจากนั้นได้ยินเสียงฝนตกและพายุลมพัดแรงแต่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นกระทั่งพายุได้หอบยกเอาหลังคาบ้านของตนพร้อมฝาบ้านไปทั้งแถบในคราวเดียว ทำให้ตกใจมากเพราะมองเห็นท้องฟ้าเปิดโล่งขณะที่ยังนอนอยู่บนเตียงกับหลานๆ ทำให้พาเด็กวิ่งลงจากบ้านเพื่อหลบภัยที่ชั้นล่างขณะที่ฝนยังตกลงมาทำให้บ้านและข้าวของเครื่องใช้เปียกทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าด้านนายสมศักดิ์ คณาคำ นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมกับเทศบาล ต.สันทราย เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายโดยได้ประสานไปยังทหารพราน ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง และร้อยตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) 327 เพื่อขอกำลังสนับสนุนไปซ่อมแซมบ้านของชาวบ้านที่เสียหายหนักเพื่อไม่ให้กระทบกับฝนที่อาจจะตกลงมาหรือมีพายุลมพัดแรงอีกครั้ง รวมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามขั้นตอน ขณะที่ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้เสาไฟฟ้าที่หักโค่นและต้นใหม่ไปติดตั้งตลอดทั้งวันแล้ว.
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ (18 พ.ค.59) ทางกรมอุตุนิยมวิทยารายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มีแนวลมพัดสอบของลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตก อนึ่ง ในช่วงวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2559 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มพัฒนาตัวเป็นพายุไซโคลน และคาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวตามแนวชายฝั่งทางด้านตะวันออกของคาบสมุทรอินเดียในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่มีกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยในระยะนี้
สำหรับในพื้นที่ ภาคเหนือ พยากรณ์อากาศ ตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ พบว่าอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ร่วมแสดงความคิดเห็น