ป่าไม้ใช้ กฎเหล็ก ผู้บุกรุก! ป่าน่าน

อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดยุทธการบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกผืนป่าน่านพบถูกบุกรุกเข้าอาศัยและทำกินหลายพันไร่ จนกลายเป็นพื้นที่เขาหัวโล้น

เมื่อวันที่ 18 พ.ค.59 ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.4 ขุนสถาน อ.นายน้อย .น่าน นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันรักษาป่า ลงพื้นที่จังหวัดน่านเปิดยุทธการบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกผืนป่าน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำน่าน ณ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งขวาแม่น้ำน่านตอนใต้ ขุนห้วยต้าม ต.น้ำตก อ.นาน้อย เนื้อที่กว่า 230 ไร่

การนำกำลังลงพื้นที่ในการเปิดยุทธการบังคับใช้กฎหมายกับผู้บุกรุกผืนป่าน่าน เนื่องจากมีกลุ่มคนรักถิ่นเกิด ได้เข้าร้องเรียนกับทางเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในท้องที่จังหวัดน่าน ว่า มีการบุกรุกจากลุ่มราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่า บุกรุกแผ้วถางเป็นบริเวณกว้าง บริเวณขุนห้วยต้าม บ้านเปา หมู่ 5 ต.น้ำตก อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เนื้อที่ป่าบริเวณดังกล่าว มีเนื้อที่ประมาณ 1,009,609 ไร่ เป็นบริเวณพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำน่าน มีการบุกรุกเข้าอาศัยและทำกินหลายพันไร่ ทั้งก่อนและหลัง ปี 2545

จากการเข้าตรวจเป้าหมาย กรมป่าไม้ได้เข้าดำเนินการเป็นส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่บุกรุกใหม่ หลังปี 257 จำนวน 3 แปลง 229 ไร่ จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย เพราะถือว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า ตรวจสอบพบตอไม้ที่มีการตัดฟันใหม่หลายต้น ไม่มีการผ่อนผันและจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดกฎหมายต่อไป ส่วนที่ 2 เป็นการบุกรุกเก่า เป็นการบุกรุกพื้นที่หลังปี 2545 แต่บุกรุกก่อนปี 2557 อีกจำนวน 3 แปลง เนื้อทีนับพันไร่ ส่วนนี้จะให้เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองราษฎรที่เข้ามาบุกรุก ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2557

อย่างไรก็ตาม นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้ ต้องเข้ามาแก้ปัญหาในพื้นที่จริงจัง จากสภาพปัญหาบุกรุกป่าน่านจนเป็นพื้นที่เขาหัวโล้น โดยส่งเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับราษฎรในพื้นที่ถึงการทำประโยชน์ และจะเร่งดำเนินการช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับราษฎรผู้ยากไร้ตามนโยบายรัฐบาล ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมและพื้นที่ทวงคืนผืนป่า จะดำเนินการฟื้นฟู ตามนโยบาย “พลิกฟื้นผืนป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ส่วนพื้นที่ป่าสมบูรณ์ กรมป่าไม้จะไม่ให้มีการบุกรุกอีกต่อไป