สสว.เดินหน้า ดันเอสเอ็มอี เข้าสตาร์ทอัพ

 

นายปวิณ ชำนิประศาสน์
นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

สสว.จับมือกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง จัดสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์ เปิดตัวโครงการพัฒนาผู้ประกอบการ Start Up ปี 2559 ในกลุ่มภาคเหนือตอนบน หวังยกระดับผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจและเติบโตได้ตามวงจรธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่โมเดลประเทศไทย 4.0

เมื่อวันที่ผ่านมา นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีเปิดการสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์ โครงการพัฒนาผู้ประกอบการ (Start Up) ปี 2559 (ภาคเหนือตอนบน) โดยมีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานของ 17 จังหวัดภาคเหนือ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน SMEs ให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจให้เกิดความเข้มแข็งจึงเห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงานส่งเสริม SMEs ระยะเร่งด่วน ปี 2558 ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ (4p) รวม 13 โครงการ ซึ่งมุ่งเน้นงานที่สามารถเริ่มดำเนินการให้ทันทีและให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการบริหารจัดการงานส่งเสริม SMEs ให้มีประสิทธิภาพ มีเอกภาพดำเนินงานสอดคล้องในทิศทางเดียวกันและมีการสร้างกลไกหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการสนับสนุนให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจและเติบโตได้ตามวงจรธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

b5 w=9h=7นายปวิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ ธนาคารวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทั้ง 9 แห่ง ได้ลงนามความร่วมมือการสร้างผู้ประกอบการใหม่เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม ภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Start Up) ปี 2559 ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อก้าวเข้าสู่โมเดลประเทศไทย 4.0 สนับสนุนผู้สนใจเป็นผู้ประกอบการให้สามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วแต่ไม่เกิน 3 ปี และกลุ่มนิสิต นักศึกษาที่กำลังศึกษา หรือ จบการศึกษาไปแล้วแต่มีความต้องการที่จะประกอบธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการนำเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพซึ่งจะจัดฝึกอบรมความรู้พื้นฐานธุรกิจในด้านต่างๆ การเขียนแผนธุรกิจ และจัดให้มีนักวินิจฉัย ที่ปรึกษามาให้คำแนะนำ บ่มเพาะทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติตลอดจนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดพร้อมรองรับการสนับสนุนด้านการเงินแบบครบวงจรในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ SMEs ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการเป็นต้นแบบในการพัฒนาศักยภาพ SMEs ของไทย ในการขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและมุ่งหวังให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย ทั่วประเทศ ภายในปี 2561 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น