ข้ามเมย เชยชมจระเข้ยักษ์ และวัดงาม ที่ “เมียวดี”

มาเที่ยวอำเภอ “แม่สอด” จังหวัดตาก นอกจากจะได้เที่ยว ชิม และช้อป ในแม่สอดแล้ว เรายังสามารถข้ามแดนไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง “เมียนมา” ได้อีกด้วย แบบไปกลับในวันเดียว

โดยพื้นที่ของประเทศเมียนมาที่ติดกับอำเภอแม่สอดนั้น ได้แก่ “จังหวัดเมียวดี”

“เมียวดี” หรือที่เมียนมาเรียกว่า “มยะวะดี” เป็นเมืองชายแดนด้านตะวันออกของประเทศเมียนมา โดยมีแม่น้ำเมยเป็นเขตกั้น เชื่อมด้วยสะพานมิตรภาพไทย-พม่า โดยสะพานนี้เป็นเส้นทางเชื่อมความสัมพันธ์และเพิ่มความสะดวกในการคมนาคมระหว่างสองประเทศ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมถนนสายเอเชียจากประเทศไทยไปสู่ประเทศเมียนมา เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรจากฝั่งอินโดจีนไปสู่ภูมิภาคเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและยุโรป โดยสะพานแห่งนี้ได้ถูก
เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2540

สำหรับ เมียวดี เป็นตลาดการค้าชายแดนที่สำคัญแห่งหนึ่ง ซึ่งเมียนมาจัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ซึ่ง เมียวดี เป็นเมืองที่อยู่ในรัฐกะเหรี่ยง แต่เดิมประชากรส่วนใหญ่เป็นพม่า ต่อมาเริ่มมีการค้าขาย มีชาวจีน แขก กะเหรี่ยง และมุสลิม เข้ามาอยู่ มาค้าขาย และเป็นเมืองเปิด ในตัวเมืองมีโรงพยาบาล วัด โรงเรียน สถานีตำรวจ ตลาด และมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย

การปกครองเป็นแบบท้องถิ่นมีทหารพม่าและกองกำลังชนกลุ่มน้อยผสมร่วมด้วย การสัญจรทางรถยนต์ เมียวดีถือได้ว่าเป็นเส้นทางขนส่งสินค้านำเข้าและส่งออก ทางรถยนต์ทางหลักจากประเทศไทย และอินโดจีน

ซึ่งการจะข้ามจากแม่สอดเข้าสู่เมียวดีนั้น ต้องทำบัตรข้ามผ่านแดน โดยใช้บัตรประชาชนไทย เป็นการข้ามแดนไปเมืองเมียวดี แต่จะไปได้ไม่ไกล ไปได้เพียงแค่วันเดียว โดยด่านฝั่งแม่สอด ประเทศไทย จ่ายค่าธรรมเนียม 30 บาท ด่านฝั่งจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงประเทศเมียนมา ค่าธรรมเนียมคิดเป็นเงิน
ไทย 20 บาท

เมื่อข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่าได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมเปิดตาเปิดใจเที่ยวเมียวดีกันได้เลย…!!!

เมียวดี มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆมากมาย โดยหลักๆแล้วจะเป็นวัดและตลาด อันได้แก่ วัดมิเจากง , วัดเจดีย์ทอง , วัดมอญพระยืน , วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว , วัดอธิษฐาน , วัดเจ้าโหล่งจี และตลาดบุเรงนอง เป็นต้น

“วัดมิเจากง” หรือ “วัดจระเข้” ซึ่งเป็นวัดที่มีตำนานการสร้างรูปจระเข้ตัวสีเขียวขนาดใหญ่ ที่บนหลังรูปจำลองจระเข้ยักษ์วางด้วยตัวอาคารที่ เรียกว่า ตัวโบสธ์ โดยตามตำนานกล่าวไว้ว่า “เจ้าอาวาสได้นิมิตรเห็นจระเข้มาเข้าฝันว่าสถานที่สร้างวัดแห่งนี้ จระเข้เคยอาศัยอยู่ การจะสร้างสิ่งก่อสร้างทับสถานที่แห่งนี้ได้สำเร็จ จะต้องทำตามนิมิตรฝัน ไม่งั้นจะสร้างวัดไม่สำเร็จ หรือผู้ที่มารบกวนสถานที่จะอยู่ไม่ร่มเย็นเป็นสุข”

ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นสิ่งก่อสร้างที่เป็น “จระเข้ยักษ์” ตัวสีเขียว นอกจากนี้ในวัดยังมีต้นเสาจำลอง ซึ่งเรียกว่า “เสาอโศกมหาราช”

“วัดเจดีย์ทอง” หรือ “วัดส่วยมินวุ่น” เป็นวัดเก่าแก่ ที่สันนิฐานว่าสร้างมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเมียวดี มาอย่างยาวนาน โดยมีพระพุทธรูปในปางต่างๆประจำอยู่ทั้งสี่ทิศ มีเจดีย์องค์ใหญ่ที่สูงจากพื้น 123 ฟุต และที่สำคัญมี “พระมหามุณี” เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนในท้องถิ่น
เลื่อมใสศรัทธา

นอกจากนี้อีกสิ่งที่น่าสนใจในวัดเจดีย์ทองแห่งนี้ ก็คือ สิงโตทั้งสี่ด้าน ที่มีความเชื่อว่าทำหน้าที่เฝ้าวัด ชาวพม่านิยมใช้ใบ “เอ่าตะปิ่น” ในการสักการะ เชื่อว่าอธิฐานสิ่งใดจะสมปรารถนา

“วัดมอญพระยืน” ในวัดจะมีพระยืนปางเปิดโลกองค์ใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ ทั้งยังมีเจดีย์องค์ใหญ่อีกหลายองค์ และที่สำคัญมีพระบรมสารีริกธาตุ ให้สักการะบูชา และ “วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว” เป็นวัดที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีเจดีย์องค์ใหญ่ทรงชเวดากองตั้งตระหง่านอยู่บนเนิน ต้องเดินขึ้นบันไดไปนมัสการ ข้างใต้เจดีย์มีพระพุทธรูปให้สักการะ

เที่ยววัดชมจระเข้ยักษ์อันแปลกตา และขอพรพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว ก็ได้เวลาเดินเที่ยวตลาดกันแล้ว กับ “ตลาดบุเรงนอง” ที่อยู่ไม่ไกล
จากชายแดนไทย-เมียนมามากนัก “ตลาดบุเรงนอง” เป็นตลาดชายแดนที่ใหญ่อีกแห่งหนึ่งของเมียวดี มีสินค้าอุปโภคและบริโภคให้เลือกซื้อเลือกหามากมาย เป็นตลาดที่มีรูปแบบเฉพาะถิ่น มีผู้คนหลากหลายเดินไปมาเลือกซื้อสินค้าที่ตนต้องการ โดยตลาดแห่งนี้เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เราจะได้สัมผัสความหลากหลายของชีวิตของชาวพม่า โดยสินค้าของที่นี่เราสามารถจ่ายเป็นเงินไทยได้

สำหรับการจะเดินทางมาท่องเที่ยวยัง “เมียวดี” รัฐกระเหรี่ยงของประเทศเมียนมานั้น จะขับรถข้ามแดนไปเอง หรือจะซื้อทัวร์นำเที่ยวเข้าไปก็เหมา
โดยหากสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก โทรศัพท์ 055-514341-3 หรือ
www.facebook.com/taktravel ซึ่ง ททท.ตาก ยินดีให้ข้อมูลทุกเรื่องที่ท่านอยากรู้ ทั้งในจังหวัดตากและประเทศเพื่อนบ้านอย่าง “เมียวดี”…!!!