ยูนิโคล่รุกตลาดออนไลน์ ตอบโจทย์ให้กลุ่มนักช้อป

b.4ตลาดอี-คอมเมิร์ซในเมืองไทยเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ชาวไทยนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ “ยูนิโคล่” ขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์เตรียม เปิดตัว “Uniqlo Online Store” ลูกค้าสามารถช้อปสินค้าผ่าน www.uniqlo.com/th ชี้นับเป็นประเทศที่ 3 ของอาเซียน ชูจุดเด่นคอลเลคชั่นเอ็กซ์คลูซีฟ

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทแม่จากประเทศญี่ปุ่นวางเป้าหมายการดำเนินธุรกิจว่า ในปี 2563 ยอดขายของที่มาจากช่องทางออนไลน์ทั่วโลกจะขึ้นมาเป็น 30% โดยที่ผ่านมายูนิโคล่แต่ละประเทศได้จำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวกันไปแล้ว 11 ประเทศ ซึ่งเมืองไทยที่กำลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 ก.ค.นี้ จะถือเป็นลำดับที่ 12 ของโลก และเป็นลำดับ 3 ทางแถบภูมิภาคอาเซียนต่อจากสิงคโปร์และมาเลเซีย คาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการจับจ่ายสินค้าแฟชั่นภายใต้แบรนด์ยูนิโคล่ของลูกค้าคนไทย

สำหรับในช่วงที่ผ่านมายังพบว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซในเมืองไทยเติบโตเพิ่มสูงขึ้นทุกปี หรือมีมูลค่าราว 2.1 ล้านล้านบาท เมื่อปี 2558 คิดเป็นอัตราการเติบโต 3.65% มีกลุ่มสินค้าเพื่อความงามและแฟชั่นคิดเป็นสัดส่วน 42.6% ที่ผู้บริโภคชาวไทยนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์มากที่สุด บริษัทเองเห็นเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจ แน่นอนว่าการเข้ามารุกของยูนิโคล่ครั้งนี้ จะเป็นการตอบโจทย์และความต้องการผู้บริโภคอย่างดี

ส่วนการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในออนไลน์ที่ชื่อว่า “Uniqlo Online Store” นั้น ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผ่าน www.uniqlo.com/th เบื้องต้นจะมีสินค้าที่ขายเฉพาะออนไลน์เท่านั้น ทั้งยังมีระยะเวลาการจัดส่งไม่เกิน 3 วันทำการ และรับประกันความพึงพอใจด้วยการคืนสินค้าจากบริษัทภายใน 30 วันอีกด้วย เชื่อว่าจะเป็นจุดที่สร้างความสนใจให้ผู้บริโภคหันมาซื้อของผ่านช่องทางนี้

นายชาญวิทย์ กล่าวว่า แผนงานของการประชาสัมพันธ์และทำตลาดผ่านช่องทางใหม่นี้ มองว่าในระยะแรก 1-2 ปี ควรเน้นการสร้างการรับรู้ก่อนเป็นลำดับแรก โดยเฉพาะในเขตของกรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ถึงการเปิดขายสินค้าผ่านออนไลน์ โดยช่วง 3-4 ปีต่อมาคงเป็นการกระจายออกสู่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินธุรกิจช่วงที่ผ่านมา แม้หลายผู้ประกอบการจะบอกว่าเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยมากนัก แต่ในส่วนของบริษัทเองกลับมียอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง โดยแผนขยายสาขาในครึ่งปีหลังยังเหลืออีก 2 แห่ง ที่จะเปิดให้บริการเพิ่ม ได้แก่ นครราชสีมา และหัวหิน จากที่ครึ่งปีแรกเปิดเพิ่มไปแล้ว 2 สาขา

ร่วมแสดงความคิดเห็น