ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ เช้าวันนี้ ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา คดี”นายอาหลิว” หรือ”นายสุก ตาจง “หรือ นายเฉิน หมั่นซุง ซึ่งเป็นอาชญากรเศรษฐกิจที่สำนักงานอัยการเมืองจงซาน มณฑลกวางตุ้ง และองค์กรตำรวจสากล แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนติดแกะรอยมานาน
เนื่องจากทำการยักยอกเงินธนาคารกลางจีนมากว่า 400 ล้านหยวนหรือกว่า 2 หมื่นล้านบาท แต่คดีดังกล่าวพลิกผัน ถูกรวบตัวได้ในไทย เพราะกลายเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร และ พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน
โดยในช่วงเช้าวันนี้ ( 10 สิงหาคม 2559 ) ศาลฎีกาได้นัดอ่านคดีที่มีนักการเมืองท้องถิ่นตกเป็นผู้ต้องหารวม 7 คน ประกอบด้วยจำเลยที่ 1 นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ หรือ”เสี่ยตุ้ม” อดีตเทศมนตรีฝ่ายงานช่าง เทศบาลนครนครเชียงใหม่, จำเลยที่ 2 นายพิทักษ์ ตันติศักดิ์ หรือ”เสี่ยหมี” อดีต สท. นครเชียงใหม่ จำเลยที่ 3 นายจรัส ณรงค์จันทร์ชัย อดีต สท.นครเชียงใหม่, จำเลยที่ 4 นายสุรชัย จันทร์เป็ง , จำเลยที่ 5 นายบุญยัง ปัญจศีล, จำเลยที่ 6 นายสิงห์ทร เกสร และจำเลยที่ 7 นายประสิทธิ์ เจียมจิต
อย่างไรก็ตามการนัดอ่านคดี(ขั้นฎีกา)ในวันนี้ ปรากฎว่านายพิทักษ์ ตันติศักดิ์ หรือเสี่ยหมี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ทนายมายื่นร้องต่อศาล ให้เลื่อนการอ่านคดีออกไป เนื่องจากป่วย มีอาการปวดท้องกระทันหัน โดยมีใบรับรองแพทย์มายืนยัน ซึ่งศาลฯได้เลื่อนอ่านคดีออกไปเป็นเดือนตุลาคม 2559
ทั้งนี้คดีดังกล่าว เริ่มจาก”นายอาหลิว”พร้อมภรรยา(“เฉินโซวหย่วน” หรือนางนิภา สมใจ )ได้ ลักลอบหลบหนีคดีเข้ามาเมืองไทย ทางเชียงแสน เชียงราย ตั้งแต่ปี 2538 และจากนั้นได้ลักลอบอาศัยในไทยและที่เชียงใหม่ จนถูกจับกุมได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 1 กันยายน 2543
ต่อมาในวันที่ 17 พ.ย.2543 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อ่านคดี พิพากษาลงโทษในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนราษฎร์ รวมทั้งสิ้น 29 กระทง ซึ่งนายอาหลิวและภรรยารับสารภาพและศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 13 ปี 10 เดือน ส่วนภรรยาจำคุกเหลือ 11 ปี 4 เดือน คาดว่าจะหลังรับอิสรภาพจากการจองจำที่เรือนจำเชียงใหม่ หลังจากนั้น ต้องส่งตัวไปรับโทษที่ประเทศจีนอีกหลายกระทง
ในการสืบสวน สอบสวน คดีดังกล่าวพบว่ามีการพัวพันโยงใยนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับชาติ และที่สำคัญ นายอาหลิว มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ในขณะนั้นด้วย และผลพวงของขบวนการที่ช่วยเหลือในการสวมบัตรประชาชนโดยสวมชื่อคนตายที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งมีนาย สุดพงษ์ วสนาท ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น จิรัฎฐ์ วสนาท ใช้หน้าที่ปลัดกิ่งอำเภอแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ แจ้งเข้าชื่อสุก ตาจงในทะเบียนบ้าน และออกบัตรประชาชนให้ และมีการแจ้งย้ายชื่อเข้ามาในทะเบียนบ้านเขตเทศบาลนครเชียงใหม่หลายแห่ง ซึ่งหนึ่งในสถานที่เป็นห้องแถวของนักการเมืองคนดังในเชียงใหม่
จนทำให้นายเฉิน และภรรยาชาวจีนฟอกตัวเป็นคนไทย ใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ กว่า 5 ปี เพราะเป็นแหล่งรายได้ของกลุ่มนักการเมืองบางกลุ่ม จนกระทั่งกลายเป็นคดีดังระดับโลก มีการดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องในเวลาต่อมา บางรายก็เสียชีวิตไปก่อนหน้านั้นบางส่วนก็ล้มละลาย สิ้นเนื้อประดาตัวก็มี เพราะนายอาหลิว สาปแช่ง
ในเวลาต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ เป็นเวลา 8 ปี 6 เดือน, นายพิทักษ์ ตันติศักดิ์ ตัดสินจำคุก 12 ปี 6 เดือน แต่มีการขอยื่นอุทธรณ์ และยกฟ้องจำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 จำเลยที่ 5 และจำเลยที่ 6
จนกระทั่งในวันนี้ซึ่งศาลฎีกาได้กำหนดนัดอ่านคำพิพากษา เพราะหนึ่งในผู้ต้องหา ยื่นขอเลื่อนการอ่านคดีออกไปเนื่องจากป่วย
อย่างไรก็ตาม นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ หรือ เสี่ยตุ้ม กล่าวต่อสื่อที่ใกล้ชิดว่า คดีนี้มันนานมากแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และวันนี้ก็เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมข้าวของ เสื้อผ้ามาพร้อม ไม่คิดหลบหนี พร้อมตบไหล่สื่อที่ใกล้ชิด และย้อนถามว่าเป็นยังไงสบายดีมั๊ย
ร่วมแสดงความคิดเห็น