ชี้ครึ่งปีหลัง เงินท่องเที่ยวสะพัด จีนยังคงครองแชมป์

b1 w=27h=9 2ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเผย การผลประเมินภาพรวมด้านการท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลังยังคงมีแนวโน้มขยายตัว เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว คาดจะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยกว่า 32 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 15% มีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวกว่า 2.87 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นเอเชีย สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย รวมถึงยุโรป ด้านขนส่งจังหวัดเชียงใหม่แนะให้นักท่องเที่ยวทำใบขับขี่เพื่อใช้รถที่เช่าในไทย ได้อย่างปลอดภัย

นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และแถบชายแดน มีรายได้ลดลงเกือบ 100% หลังจากกรมการขนส่งทางบก ออกมาตรการจัดระเบียบการนำรถจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ที่จะขั้นตอนและรายละเอียดมากข้น ทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่นิยมขับรถเข้ามาท่องเที่ยวในไทยวันละกว่า 2,000 คัน เปลี่ยนวิธีการเดินทางไปยังจังหวัดอื่น โดยใช้สายการบินแทน จึงต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือในการทบทวนกฏระเบียบต่างๆ และข้อบังคับที่ประกาศของกรมขนส่งทางบก เพื่อหาวิธีการผ่อนปรน อำนวยความสะดวกให้การขอนุญาตนำรถของนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยสะดวกเพิ่มขึ้น จัดระเบียบทำความเข้าใจเพื่อดูแลควบคุมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่นำรถเข้ามา ให้เกิดความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการเดินทางโดยสายการบินเข้ามาในประเทศ และปรับเปลี่ยนไปท่องเที่ยวในภาคอื่นแทน

นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินว่า ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง จากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเข้ามาในไทยกว่า 32 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 10 – 15 % และมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยวกว่า 2.87 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10-12% โดยนักท่องเที่ยวจีนยังคงเป็นอันดับ 1 รวมถึงนักท่องเที่ยวจากเอเชีย สหรัฐอเมริกา และรัสเซียที่เริ่มเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น หลังจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศรัสเซียเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับสถานการณ์การก่อร้ายที่เกิดขึ้นในยุโรป ทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเอเชียและ ภูมิภาคอื่นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งไทยได้มีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย มีการติดตั้งกล้อง CCTV กระจายในพื้นที่ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ดูแลความปลอดภัย ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว

ขณะที่ทางด้าน นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นำรถยนต์ ส่วนบุคคลข้ามด่านชายแดนอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยและมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ มีจำนวนลดลงเป็นศูนย์ ในช่วงเวลาหนึ่ง เกิดจากการออกกฎเพื่อจัดระเบียบการท่องเที่ยว และป้องกันอุบัติเหตุภายในประเทศ ของกรมการขนส่งทางบกนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงทั้งหมด เพราะกฎระเบียบได้ออกมามาตั้งแต่ เดือนมิถุนายน 2558 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยต้องขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ขนส่ง ผ่านทางมัคคุเทศก์ ไม่น้อยกว่า 10 วัน ให้มีการเทียบใบอนุญาตขับขี่ระหว่างประเทศต้นทางและประเทศไทย พร้อมทั้งให้มีหนังสือรับรองที่อยู่ และให้ทดสอบสายตาปฏิกิริยามือและเท้าก่อน

ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นำรถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาในไทยไม่ได้ลดลงเป็นศูนย์ในทันทีทันใด แต่ค่อยๆ ลดลง อาจจะเป็นเพราะนักท่องเที่ยวเปลี่ยนการเดินทางมาทางเครื่องบินเช่าเหมาลำและทางอื่นที่เห็นว่าสะดวกกว่า หรือ อาจเป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศจีน เนื่องจากช่วงนี้จีนประสบปัญหาอุทกภัย นักท่องเที่ยวจีนจึงไม่ได้นำรถยนต์เข้ามาเอง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า กรมการขนส่งทางบก จะนำเรื่องนี้ไปประเมินข้อเท็จจริงเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่แท้จริง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ชาวจีนทำใบขับขี่เพื่อใช้รถยนต์ที่เช่าในไทย ได้อย่างปลอดภัย โดยขณะนี้ในจังหวัดเชียงใหม่มีชาวจีนได้ใบอนุญาตขับขี่ของไทยแล้วจำนวนกว่า 1,000 รายแล้ว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวส่งท้าย

ร่วมแสดงความคิดเห็น