“กระทิง” ปลูกเป็นไม้ประดับ

B11

ชื่อวิทยาศาสตร์(Scientific Name ):Calphyllum inophyllum L. ชื่อวงศ์ ( Family Name ):GUTTIFERAE

ชื่อสามัญ(Common Name ):Alexandrian Laurel, Indian Laurel ชื่ออื่นๆ ( Other Name ):กากะทิง(ภาคกลาง) ทิง(กระบี่) เนาวกาน(น่าน) สารภีทะเล(ประจวบคีรีขันธ์)

ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 6-20 เมตร เรือนยอดแผ่กว้างเป็นพุ่มกลมแน่นทึบ ลำต้นมักคดงอ เปลือกสีน้ำตาลปนเทาค่อนข้างเรียบ ทุกส่วนมียางสีเหลืองอมเขียว

ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม ใบรูปรีแกมรูปไข่กลับ กว้าง 4-6 เซนติเมตร ปลายใบกลมหรือเว้าเล็กน้อย โคนใบสอบ ใบหนาแข็ง เส้นใบถี่และขนานกัน (ใบคล้ายสารภี แต่ใหญ่กว่า ใบเป็นมัน และเส้นใบขนานกันเห็นชัดกว่า)

จุดเด่นของดอก ช่อดอกสีขาว ออกที่ปลายกิ่งและซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อหนึ่งมี 6-10 ดอก ก้านดอกสีขาวยาว 2-2.5 เซนติเมตร มีกลีบดอก 5-6 กลีบ รูปไข่ปลายแหลม กลีบดอกงองุ้มโค้งเข้าหากัน มีเกสรเพศผู้สีเหลืองเข้มจำนวนมาก ช่วยเน้นให้ดอกมีสีเด่นชัดเจน ดอกบานมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร เมื่อใกล้โรยเกสรเพศผู้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ดอกบานไม่พร้อมกัน ดอกตูมมักอยู่ที่ปลายช่อดอก เมื่อบานเต็มที่กลีบดอกจะบานแผ่โค้งออกมีกลิ่นหอมออกดอกตลอดปี

ผล เป็นรูปกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร ผลอ่อนสีเขียวและเมื่อแก่สีน้ำตาลแห้ง ผิวย่น แต่ละผลมี 1 เมล็ด
การขยายพันธุ์และปลูกเลี้ยง ขยายพันธุ์โดยเพาะเมล็ด จะได้ต้นกล้าที่มีความแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี เป็นไม้ที่ทนต่อไอน้ำเค็ม และลมทะเล จึงนิยมปลูกตามบ้านพักริมทะเล

การใช้ประโยชน์ ปลูกเป็นไม้ประดับโชว์ทรงพุ่ม ไม้ให้ร่มเงาตามริมถนนและในแปลงกลางแจ้งทั่วไป มีดอกหอม

ร่วมแสดงความคิดเห็น