(มีคลิป) คืบหน้า เฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72 หรือ ลาโกต้า ของ ผบ.พล ร.4 หายสาบสูญ ล่าสุดเช้านี้เจ้าหน้าที่ปูพรมเร่งออกตามหา

https://youtu.be/F4vBX9tHTh4

เร่งตามหา (2)

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 ส.ค.59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์จากกรณี พล.ท.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ รุ่น UH-72 หรือ ลาโกต้า ซึ่งมี พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่ 4 ภายหลังกลับจากการทำภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ดอยอินทนนท์ ที่ อ.ป้างมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และกำลังมุ่งหน้ากลับมายัง จ.พิษณุโลก แต่ทางสถานีเรดาร์กองทัพอากาศ ดอยอินทนนท์ ตรวจพบว่า เฮลิคอปเตอร์ได้หายไปจากจอเรดาห์และขาดการติดต่อเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่ผ่านมา โดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 5 คน เป็นนักบิน 2 คน ช่างเครื่อง 2 คน และผู้โดยสาร 1 คน ขณะนี้ทางหน่วยเฉพาะกิจกรรมทหารพรานที่ 36 ได้จัดกำลังค้นหาเป็นการเร่งด่วน

โดยในเวลาต่อมา นายพรเทพ เจริญสืบสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ทั้ง 18 หน่วยของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ พร้อมขยายกำลังกองพลทหารราบที่ 7 พร้อมด้วยกรมทหารพรานที่ 36 ราว 500 นาย ได้ดำเนินการออกลาดตระเวนภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณพิกัด อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉิน โดยจากการลงพื้นที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา 3 จุดหลักได้แก่ บริเวณบ้านแม่ว้า , บ้านแม่หนิง และบ้านแม่มะลอ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ไม่ได้รับรายงานจากชาวบ้าน แต่จากรายงานพบว่า ชาวบ้านที่แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบเห็นเฮลิคอปเตอร์บินส่ายไปมาและเป็นจุดสุดท้ายที่พบเจอ ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะยกตัวบินขึ้นสูงเพื่อหนีสภาพอากาศปิด อีกทั้งพิกัดที่เฮลิคอปเตอร์หายอยู่บริเวณบ้านแม่นาจร

(3)ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการวางแผนเพื่อระบุพิกัดให้แน่นอนชัด ก่อนจะบีบพื้นที่การค้นหาให้เล็กลง ส่วนเรื่องที่พิกัดที่แน่ชัดของจุดที่เฮลิคอปเตอร์หายไปนั้น ยังไม่สามารถระบุได้แน่นอน ประกอบกับคืนนี้จะมีการตั้งวอล์รูมที่ว่าการ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เพื่อระดมทีมเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าของอุทยานเพื่อเป็นฐานหลัก สำหรับการประสานงานด้านการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลที่ว่ามีการพบเฮลิคอปเตอร์บริเวณห้วยป่าคา ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่นั้น คาดว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ค้นหาของทางกองทัพอากาศที่ออกค้นหาในช่วงเวลาประมาณ 11.00-12.00 น. ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์คนละรุ่นกับที่หายไป

ต่อมาในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 21.00 น. ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้สนธิกำลัง ทหารอากาศ ทหารบก และกู้ภัยจัดชุดเดินเท้าลาดตระเวนเข้าไปยังพื้นที่แบ่งกำลังเป็น 3 จุด เดินเท้าจากแนวถนนกิโลเมตรที่ 44 -45 และกิโลเมตรที่ 46 เดินเท้าเข้าป่าจรดแนวหน้าผาระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร จนกระทั่งเมื่อเวลา เที่ยงคืน 20 นาที ได้รับรายงานจากชุดลาดตระเวนที่ 3 ว่าได้กลิ่นน้ำมันโชยมาตามลม แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตก และมีลมแรง ทำให้กลิ่นน้ำมันนั้นยากแก่การที่จะติดตามทิศทางที่ชัดเจนได้ ประกอบกับจุดที่ลาดตระเวนไปถึงเป็นหน้าผา ที่มีร่องหินลึก มีความลื่น มืด และอันตรายจึงทำให้เป็นอุปสรรคใหญ่จึงต้องมีการสั่งการให้เพิ่มความระมัดระวัง

(5)" ขณะเดียวกันที่ ศูนย์ประสานงาน และติดตามความคืบหน้าการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งตั้งขึ้น ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ก็มีการประชุมกัน และระดมกำลังทหาร ซึ่งจะพร้อมเพิ่มกำลังในการค้นหาพรุ่งนี้เช้าเวลาประมาณ 08.00 น.โดยจะมีการปูพรมเน้นจุดที่ได้กลิ่นน้ำมัน โดยจะแบ่งกำลังตีวงล้อมค้นหาทุกตารางนิ้วจนกว่าจะเจอต้นตอของกลิ่นน้ำมันซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่ฮอฯลงจอดฉุกเฉิน ซึ่งจากการประสานข้อมูลจากชุดลาดตระเวนและข้อมูลที่ได้รับทราบ พบว่ามีจุดเชื่อมโยงกันคือสัญญาณมือถือที่หายไปจุดสุดท้าย เป็นพิกัดที่ใกล้เคียงกับจุดที่ชุดลาดตระเวนได้กลิ่นน้ำมันด้วย จึงมีความหวังที่จะเจอทั้ง 5 ท่านในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามเกือบตอลอดทั้งคืน ที่เจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทหารบก ทหารอากาศ และทีมกู้ภัย กว่า 80 นาย ที่เดินเท้าเข้าค้นหาเฮลิคอปเตอร์ ของ พล.ต.นพพร เรือนจันทร์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 พร้อมนักบิน และช่างเครื่องรวม 5 นาย ที่ขาดการติดต่อ ซึ่งหลังจากที่มีการประเมินทั้งจากพื้นที่ และจากรายงานว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือขาดหายไปที่บริเวณยอดดอยใกล้กับกิโลเมตรที่ 44-46 โดยได้มีการแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ค้นหา จนกระทั่งเวลาประมาณ 00.20 น. ชุดค้นหาที่ 3 รายงานและยืนยันว่าได้กลิ่นน้ำมันโชยมากับกระแสลม แต่ก็พยายามค้นหาต่อเนื่อง แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตก และมีลมแรง ทำให้กลิ่นน้ำมันนั้นยากแก่การที่จะติดตามทิศทางที่ชัดเจนได้ ประกอบกับจุดที่ลาดตระเวนไปถึงเป็นหน้าผา ที่มีร่องหินลึก มีความลื่น มืด และอันตรายจึงทำให้เป็นอุปสรรคใหญ่จนต้องยุติการค้นหาเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ และเช้านี้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ได้มีการตั้งวอลล์รูมขึ้นเพื่อประสานงานการค้นหา

(1)" โดยทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ระดมกำลังพลมากกว่า 200 นาย เดินทางถึงพื้นที่แล้ว เพื่อรอประเมินสถานการณ์ และวางแผนในการค้นหาเช้านี้ เบื้องต้นจะมีการปูพรมค้นหาเน้นจุดที่กิโลเมตรที่ 46 ที่พบว่าได้กลิ่นน้ำมันซึ่งต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยชุดแรกจะเน้นการเดินลงจากถนนไปจรดหน้าผา และชุดที่ 2 จะเดินย้อนขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด อย่างไรก็ตามพบว่าสภาพอากาศยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญของการค้นหาครั้งนี้ เช้านี้ที่ยอดดอยยังมีอากาศหนาวจัดที่ 9 องศา กับมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนกับมีลมแรงต่อเนื่อง การค้นหาทางอากาศจึงไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน โดยเช้านี้ทาง พล.ต.โกศล ประทุมชาติ ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 33 เดินทางมาควบคุมปฏิบัติการค้นหาในเช้านี้ เพื่อสรุปและวางแผน คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการก่อนเวลา 09.00 น. ซึ่งความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

เร่งตามหา (4)

3879

3886

ร่วมแสดงความคิดเห็น