รถตุ๊กตุ๊กใหม่แห้ว! ขนส่งชม.ยังยันมติเดิม ไม่มีรับจดทะเบียนเพิ่ม รอกรมฯฟันธงอีกรอบ

จังหวัดเชียงใหม่ยืนยันมติ “ห้ามจดทะเบียน ตุ๊ก ตุ๊ก ใหม่” ยกเหตุผลประกอบเหตุไม่ให้จดทะเบียน ทั้งมีกฎกระทรวงให้งดจดทะเบียน เผยเชียงใหม่มีตุ๊กตุ๊กมากกว่า 1 พันคัน แจงผลสำรวจต่างไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการเพิ่มจำนวนรถ ระบุต้องนำรถรุ่นเก่ามาเปลี่ยนได้เท่านั้น ชี้รถ 4 จังหวะรุ่นใหม่สร้างมลพิษทางอากาศและเสียงดังน้อยกว่ารถเก่ามาก “ชาญชัย” เตรียมหอบมติไปแจงกรมฯ อีกรอบ ดีเดย์วันที่ 25 ส.ค.59 ประชุมให้ได้ข้อยุติที่กรมการขนส่งทางบก

วันที่ 22 ส.ค.59 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุม3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายพุฒิพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 4/2559 โดยมีเรื่องที่เป็นวาระการประชุมสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ อาทิ การจัดระเบียบการขนส่งมวลชนรถสาธารณะเมืองเชียงใหม่ ความคืบหน้าโครงการศึกษาและจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ในส่วนของสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียง โดย นายชาญชัย กีฬาแปง นำเรื่องการรับจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อจังหวัดเชียงใหม่ การกำหนดเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 1 สาย A1 A2 และ A3 และเรื่องการจัดระเบียบการเดินรถโดยสารสาธารณะในเขตเมืองเชียงใหม่ ทั้งนี้ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่แจ้งถอนวาระขอความอนุเคราะห์พื้นที่จำหน่ายสินค้าซึ่งเป็นวาระเพื่อพิจารณาออกไปก่อน โดยขอนำเข้าแจ้งให้ที่ประชุมทราบในการประชุมครั้งถัดไป

สำหรับประเด็นการรับจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อ นายชาญชัย กีฬาแปง แจงต่อที่ประชุมว่า วันที่ 6 ก.ค.59 ที่ผ่านมา สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ได้นำเสนอวาระการพิจารณารับจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อจังหวัดเชียงใหม่ต่อที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสหกรณ์สามล้อเครื่องนครเชียงใหม่ จำกัด ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 200 คัน สหกรณ์สามล้อเครื่องลานนา จำกัด ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 50 คัน และ ชมรมผู้ขับขี่รถยนต์สามล้อ ตุ๊ก ตุ๊ก ภาคเหนือ (เชียงใหม่) ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อ จำนวน 134 คัน ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบการรับจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อทั้ง 3 รายที่กล่าวมาข้างต้น

“ที่ประชุมฯ ได้ให้เหตุผลประกอบการไม่เห็นชอบในการรับจดทะเบียนทั้ง 3 รายที่ยื่นคำขอมาเนื่องจากปัจจุบันไม่สามารถจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อใหม่ได้ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 9 (พ.ศ.2535) ลงวันที่ 10 เมษายน 2535 อีกทั้งจำนวนรถสาธารณะในจังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 4,169 คัน แยกเป็นรถโดยสารสองแถว 2,465 คัน รถแท็กซี่มิเตอร์ 398 คัน รถยนต์บริการ 183 คัน และรถยนต์รับจ้างสามล้ออีก 1,123 คัน ซึ่งจำนวนขนาดนี้เพียงพอกับการให้บริการแล้ว หากรับจดทะเบียนฯ เพิ่มอาจจะส่งผลให้มีรถสาธารณะมีมากเกินไป และอาจจะก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การแย่งการให้บริการกัน การเรียกเก็บค่าโดยสารแพง และปัญหาการจราจร” นายชาญชัยฯ แจง

ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ แจงต่อว่า นอกจากนี้ยังมีผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ได้รับผลกระทบ พบว่า กลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการให้บริการรถสาธารณะ และกลุ่มประชาชนผู้ใช้บริการส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มรถ ซึ่งมีแต่ผู้ยื่นความประสงค์เท่านั้นที่เห็นด้วยจะให้มีการจดทะเบียนรถยนต์สามล้อเพิ่มมากขึ้นจากเดิม อีกทั้งข้อมูลการจดทะเบียนรับจ้างสามล้อ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,123 คัน โดยรถส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานระหว่าง 20-40 ปี และเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงควรกำหนดอายุการใช้งานของรถยนต์รับจ้างสามล้อ โดยกำหนดให้จดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อต้องเป็นรถยนต์รับจ้างสามล้อใหม่ มาจดทะเบียนทดแทนรถยนต์รับจ้างสามล้อคันเดิมที่เลิกใช้แล้ว ตามระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อทดแทนรถยนต์รับจ้างสามล้อคันเดิม พ.ศ.2558 และรถยนต์ที่นำมาเปลี่ยนควรเป็นรถยนต์ที่เดินด้วยกำลังเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ เพราะเครื่องยนต์สี่จังหวะมีค่าขอมลพิษทางอากาศและค่าความดังของเสียงต่ำกว่ารถยนต์รับจ้างสามล้อที่ส่วนมากใช้กันอยู่ขณะนี้ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ 3 จังหวะจะมีเสียงดังกว่ามาก
นายชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ ยังกล่าวต่อที่ประชุมอีก ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวนี้ทางผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย ได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังกรมการขนส่งทางบกอีกครั้ง เพื่อขอให้กรมฯ มีคำสั่งอนุญาตให้จดทะเบียน แต่เนื่องจากจังหวัดเชียงใหม่โดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดเชียงใหม่มีมติแล้วไม่ให้มีการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างสามล้อเพิ่มอีก ทางกรมการขนส่งทางบกได้เรียกตนเข้าประชุมเพื่อพิจารณาหาข้อยุติในเรื่องการนี้ในวันที่ 25 ส.ค.59 ที่จะถึงนี้

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นกรรมการคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธาน ยังคงยืนยันให้ปฏิบัติตามมติจังหวัดเชียงใหม่คราวประชุมครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ตามมติที่กล่าวมาข้างต้นนั้น