โจรเหิมบุกปล้นบ้านแม่เฒ่า จับมัดมือเท้า เข้าใจผิดคิดว่าในบ้านมีทรัพย์สิน

DSC06889 (1)

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 25 ส.ค.59 โดยทาง พ.ต.ต.พิชัย บางเมฆ พงส.สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดบ้านประชาชนและทำร้ายร่างกาย โดยเหตุเกิดที่บ้านหมายเลข 106 หมู่ที่ 10 บ้านสันมะเพือง ต.แม่สูน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังรับทราบเรื่องจึงได้รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ซึ่งเมื่อไปถึงยังที่เกิดเหตุพบกลุ่มประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงกำลังยืนมุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความแตกตื่น ใกล้กันนั้นพบ นางแว่น ลุงจันทร์ อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางหู ยืนอยู่โดยแสดงตัวเป็นผู้เสียหาย สภาพตามร่างกายพบร่อยรอยถูกทำร้าย อีกทั้งได้ให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่ามีทรัพย์สินภายในบ้านถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกร่องรอยคนร้ายไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งได้ช่วยกันนำตัวผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้เสียหายในเบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงบ่ายเวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ นางแว่น ผู้เสียหายอยู่บ้านเพียงลำพังได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ทำการใช้ผ้าปิดหน้าตาเดินเข้ามาภายในบ้านของผู้เสียหาย แล้วทำการจับตัวผู้เสียหายมัดกับเชือกก่อนจะทำการข่มขู่ให้ทางผู้เสียหายบอกที่เก็บทรัพย์สิน ซึ่งทางผู้เสียหายก็ได้ปฏิเสธว่าไม่มีทรัพย์สินอยู่ภายในบ้านแต่อย่างใด แต่ทางคนร้ายก็ยังไม่เชื่อเนื่องจากเห็นว่าภายในบ้านมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคัน พร้อมทั้งได้ทำการก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย และเข้าทำการค้นข้าวของภายในบ้าน แต่เมื่อทางคนร้ายเห็นว่าภายในบ้านไม่มีทรัพย์สินจึงได้หยิบเอาทะเบียนรถจักรยายนยนต์ไปเล่มหนึ่ง ก่อนจะทำการหลบหนีไป จากนั้นในเวลาต่อมาทางญาติของผู้เสียหาย ได้เดินทางกลับมายังบ้านพบว่า นางแว่น ได้ถูกจับมัดอยู่จึงได้รีบเข้ามาช่วย

DSC06893

ขณะเดียวกัน ยังทราบมาว่า นางแว่นผู้เสียหายนั้นได้อาศัยอยู่กับหลานอีก 1 คน ซึ่งช่วงกลางวันหลานก็จะไปเรียนหนังสือ นางแว่น จึงอยู่เพียงลำพัง ส่วนญาติพี่น้องที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงหรือเพื่อนบ้านก็จะออกไปทำงานกันหมดเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตลำไย จึงออกไปรับจ้างเก็บลำไย ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะมาดูลาดลาวก่อนเมื่อมั่นใจว่าผู้เสียหายอยู่เพียงลำพังจึงเข้าไปลงมือก่อเหตุ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นทราบว่าเป็นของชาวบ้านที่ไปรับจ้างเก็บลำไยมาจอดฝากไว้ ซึ่งคนร้ายอาจจะเข้าใจผิดคิดว่าบ้านหลังดังกล่าวต้องมีทรัพย์สินอยู่จำนวนมาก จึงหวังจะปล้นเอาทรัพย์สิน

DSC06895

อย่างไรก็ตามภายหลังการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่และต้องรู้ช่องทางหลบหนี ประกอบกับน่าจะมีการวางแผนมาแล้วก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากคนร้ายได้มีการเตรียมการมาอย่างดีไม่ทิ้งร่องรอยหรือลายนิ้วมือไว้ในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด ซึ่งเบื่องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น