แม้คสช.จะมีคำสั่งที่22/2558 ในมาตรการจัดระเบียบร้านเหล้า-สถานบันเทิง รอบสถานศึกษา ตั้งแต่กรกฎาคมปี 2558 พร้อมๆกับการที่พ.ร.บ.หอพัก 2558 มีผลบังคับใช้ สอดประสานกับมาตรการ “จัดโซนนิ่ง ย่านบันเทิง ร้านเหล้า รอบสถานศึกษา”ไม่เกิน 300-500 เมตร จากรั้ว…สถานศึกษา
แต่เทคนิค รูปแบบ การค้า เพื่อความบันเทิงใจของกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษา ที่เคยเห็นภาพการจับกลุ่มดูดดื่มกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งเหล้า เบียร์ ในบริเวณหอพัก ได้หายไป
ที่น่าห่วงและกลายเป็นปัญหา ในชุมชน จาก กิจการ ” มุม..บันเทิงใจ”ภายในชุมชน “เมืองมหาวิทยาลัย”หรือ สถานศึกษา มากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ย่านมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ,มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย….ในกำกับของรัฐฯและเอกชน ต่างๆหลายแหล่ง
คือมุมสุขใจ..ที่เปลี่ยนแปลงไป..จนยากจะใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการได้
นอกจาก มาตรการทางสังคม..ในการ ร่วมรับผิดชอบ..ดูแลสอดส่อง….พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น
นายอดุลย์ ฮวกนิล นายอำเภอ สันทราย เชียงใหม่ ยืนยันว่า ที่ผ่านมา อำเภอ ได้ร่วมบูรณาการแผนงาน ในมาตรการต่างๆเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง แหล่งจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีส่วนทำให้เกิดความมึนเมา ตามย่านชุมชน รายรอบสถานศึกษามาอย่างต่อเนื่อง
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในละแวกใกล้เคียงสถานศึกษา จะประสานความร่วมมือกับสรรพสามิต ,ท้องที่ ซึ่งวันนี้ ในย่านแม่โจ้ มีสภ.แม่โจ้ ที่แยกพื้นที่ในส่วนตำบลหนองหาร ที่จะมีย่านบันเทิง ร้านอาหารค่อนข้างมาก น่าจะทำให้ปัญหาชุมชนลดน้อยลงไป
ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองแม่โจ้และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ก็กวดขัน จัดชุดเจ้าหน้า รวมถึงผู้บริหารฯพบปะ หารือผู้ประกอบการ ให้ร่วมมือกันจัดระเบียบสังคม สถานบริการ มาโดยตลอด ประกอบกับกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้ทุกจังหวัดใช้นโยบาย”ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม “บังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 สอดส่องกวดขันร้านสุรา แหล่งมั่วสุม อย่างเคร่งครัด
ผู้นำชุมชน ย่านซอย 4 ในเขตเทศบาลเมืองแม่โจ้ ระบุว่า ร้านอาหารสถานบันเทิงตั้งแต่ปากซอยที่อยู่ตรงข้ามสภ.แม่โจ้ ไปจนถึงตัดออกแยกหลิ่งมื่น มีแหล่งบันเทิง เจริญใจจำนวนมาก ซึ่งกลุ่มลูกค้าประจำส่วนหนึ่งจะเป็นนักศึกษา
ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นจะเป็นในเรื่อง เหตุรำคาญ มีการเปิดเสียงดนตรี หรือ เสียงลูกค้าที่มึนเมา ในช่วงดึกๆ
แต่หลังจากที่ท้องที่ ท้องถิ่น รวมถึงชุมชน เข้ามาร่วมหารือ ในแนวทางจัดระเบียบดังกล่าวปัญหาก็ลดลงไป ถ้าช่วงที่มีมาตรการกวดขัน ก็จะไม่ค่อยมีปัญหา ถ้าหย่อนยานก็เริ่มสร้างปัญหาให้ชุมชนทั้งการจอดรถ แทบจะสัญจรไปมาในซอยลำบาก รถปิดหน้าบ้าน ส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท เป็นต้น
ขณะนี้ ในทุกสถานศึกษา ระดับอุดมศึกษามักจะมีการรับน้องคณะ รับน้องสาขา รับน้องโรงเรียน-จังหวัด-ภาคเดียวกัน เป็นต้น ยามค่ำคืนจะเห็นภาพรถจักรยานยนต์ จอดเรียงราย ตามร้านอาหารต่างๆ รายรอบสถานศึกษา ที่น่าเป็นห่วง น่ากังวลคือ การดื่ม…และไปต่อ..?
ข้อมูลที่สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รวบรวม วิจัยศึกษา ปัญหา ร้านเหล้า สถานบันเทิง รอบสถานศึกษา ตรงกับข้อมูลเครือข่ายผู้ปกครอง และผลสำรวจ มีผลเชิงประจักษ์ว่า เป็นสถานอบายมุขที่ทำลายสติปัญญาผู้เป็นอนาคตของชาติ และต้องการให้ใช้มาตรการออกประกาศสำนักนายกฯ เรื่องห้ามจำหน่ายเครื่องแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในรัศมีที่กำหนด เพราะไม่เพียงเป็นแหล่งมั่วสุม มอมเมาเยาวชน ยังส่งผลให้เกิดการทะเลาะวิวาท อาชญากรรม การล่วงละเมิดทางเพศ อุบัติเหตุเป็นปัญหาสังคมที่สังคมต้องช่วยกัน รับผิดชอบ ดูแลแก้ไข การจัดทำร่างประกาศฯ เช่น ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาตาม มาตรา 27 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ
ทางเลือกในรัศมีการจัดโซนนิ่ง ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะ ตามตรอก ซอย มุมต่างๆในละแวกชุมชนใกล้เคียงสถานศึกษา ก็ยังเปิดบริการได้ เพราะถือว่าเป็นกิจการ ร้านค้า ที่ประกอบอาชีพสุจริต ผู้บริหาร สถานศึกษา มหาวิทยาลัยแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีความเสี่ยง ต่อปัญหา “การดื่มของนักเรียน นักศึกษา ” แต่ละจังหวัดต่างขานรับกับการจัดโซนนิ่งร้านเหล้าที่สรุปว่า…ไม่ควรจะน้อยกว่า 300 เมตร
แม้แนวทาง….การจัดโซนนิ่งปลอดร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รอบสถานที่ใกล้เคียงสถานศึกษาจะไม่สามารถดำเนินการได้เด็ดขาด ความร่วมมือเพื่อทำให้ ร้านเหล้า..เหล่านี้ลดลงบ้าง ก็น่าจะช่วยให้ปัญหาสังคมลดน้อยลงได้บ้าง โดยเฉพาะการมีส่วนช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ที่ต้อง ส่งเสียในแต่ละเดือน สำหรับการศึกษา แต่นำไปใช้จ่ายเพื่อเรียนรู้ เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตจาก ร้าน…เหล้า…เหล่านี้
ทั้งนี้นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่า การติดตามแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้กวดขัน แค่ในช่วงรับน้อง หรือช่วงเปิดภาคการศึกษาใหม่ ได้สั่งการ มอบหมาย เน้นย้ำให้ทุกๆท้องถิ่นทุกอำเภอ ที่มีร้านขายสุราหรือสถานบันเทิงใกล้โรงเรียนและสถานศึกษาทุกระดับ ให้นายอำเภอกำหนดโซนนิ่ง ตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบ ร้านอาหารสถานบันเทิง ส่วนใหญ่ยอมรับว่า ร้านที่อยู่ในพื้นที่จัดระเบียบจะระมัดระวัง ไม่จำหน่ายเครื่องดื่ม เหล้าเบียร์ ให้ผู้อายุุต่ำกว่า 20 ปี อยู่แล้ว เพราะกฎหมายมีโทษหนัก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นออกตรวจตราร้านเหล้า สถานบันเทิง เป็นระยะๆค่อนข้างถี่ด้วยซ้ำไป
ที่น่ากังวลใจคือพฤติกรรม การมั่วสุม ตามบ้านเช่า และห้องพัก ที่มักจะมีการจับกลุ่มดื่ม ส่งเสียงดังก่อเหตุรำคาญในชุมชน จัดการได้ตรงโน้น ที่นั่นก็มีอีก ย้ายกันไปเรื่อยๆ
ยิ่งตามส่วน สถานที่มีบริเวณกว้างขวาง การจะเข้าไปตรวจสอบ หรือแจ้งเหตุ รำาญ เพราะเสียงดัง จากการจับกลุ่มดื่มๆของนักเรียน นักศึกษา ในชุมชนช่วงเปิดภาคการศึกษาใหม่ คงเป็นเรื่องยากที่จะจัดระเบียบ…นอกจากชุมชน สังคมต้องช่วยกัน สอดส่อง
ประการสำคัญคือ หากพบการดื่มแล้วขับขี่ ปัญหาอาจจบลงด้วยเหตุที่ผู้ปกครองทุกคน ไม่ต้องการก็ได้
รู้หน้าที่เรียน และเรียนรู้ ในกรอบที่ดีงาม เหมาะสมตามวัย ไม่ตามกระแสสังคม..ในการสร้างทักษะ ประสบการณ์ชีวิตจากการดื่มด่ำกับความเมา
เพราะ วันที่สุขสันต์ อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิต จากผลพวงของการดื่ม เมาแล้วขับ หรืออาจนำไปสู่เรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในชีวิต ในวัยเรียน ผู้ที่ต้องเสียใจทั้งชีวิต คือ พ่อ แม่ ครอบครัว..คนที่รักเรา
ไม่ใช่ พวกในวงดื่ม-กลุ่ม-พวกคณะ-หรือร้านเหล้า ที่ต้องเสียลูกค้าไปอีกราย!!
ร่วมแสดงความคิดเห็น