รมว.สธ.ไฟเขียวดัน “นวดไทย”เป็นมรดกโลก “

4745
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เห็นชอบหลักการผลักดันนวดไทยขึ้นเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรมแล้ว เร่งเดินหน้าต่อขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมหลักฐานการใช้นวดไทยสร้างอาชีพทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกกว่า 20 ประเทศทั้งนวดราชสำนัก นวดเชลยศักดิ์และนวดพื้นบ้าน ก่อนเสนอกระทรวงวัฒนธรรม นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของคณะกรรมการมรดกโลก
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชน เยี่ยมชมรันตีสปา โรงแรมรอยัลริเวอร์แคว รีสอร์ทแอนด์สปา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสปาที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพตั้งแต่พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา มีพนักงานบริการ 5 คน โดยมีบริการด้านการเสริมความงามและนวดราชสำนักเพื่อคลายเครียด ส่งเสริมสุขภาพ โดยมอบเอกสาร แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์ให้เตรียมความพร้อมขอใบอนุญาตประกอบกิจการสปาเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพพ.ศ. 2559 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 27 กันยายน 2559 เป็นต้นไป
นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 ถือเป็นกฎหมายฉบับสำคัญที่จะเอื้อให้มีการนำภูมิปัญญาของประเทศไทยมาใช้อย่างกว้างขวางในการสร้างเศรษฐกิจรายได้เข้าประเทศ ทั้งสมุนไพรซึ่งไทยเป็นแหล่งสมุนไพรที่มีคุณภาพดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และนวดไทย นำมาใช้ในการส่งเสริมดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งกรมสบส.มีแนวคิดที่จะส่งเสริมเพิ่มมูลค่าการนวดไทยให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทย ต้องสัมผัสจากมือที่เป็นคนไทยเท่านั้น โดยผลักดันให้นวดไทยเป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากหลายฝ่าย และศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เห็นชอบในหลักการเรียบร้อยแล้ว กรมสบส.จะเร่งเดินหน้าตามขั้นตอน
ทั้งนี้ การนวดไทยที่จะผลักดันให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ประกอบด้วย 3 ประเภทได้แก่ นวดแบบราชสำนัก นวดแบบเชลยศักดิ์ และนวดแบบพื้นบ้าน แต่ละภาคมีความแตกต่างกัน แต่ใช้หลักการเดียวกันคือบีบ นวด กด คลึง คลำ ขยำ โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้หารือร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงวัฒนธรรม และสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ภาคเอกชน ทำการรวบรวมข้อมูล หลักฐานต่างๆที่เกี่ยวกับการนวดไทย รวมทั้งข้อมูลการประอบวิชาชีพนวดไทยที่สร้างรายได้ทั้งในสถานบริการนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยตรง และในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งในประเทศ และต่างประเทศซึ่งคาดว่ามีกว่า 20 ประเทศ อาทิ นอร์เวย์, สวีเดน ,สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เยอรมัน จีน ออสเตรเลีย เป็นต้น เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพซึ่งมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ประมาณเดือนธันวาคม 2559 จากนั้นจะเสนอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารของคณะกรรมการมรดกโลก (Bureau of the World Heritage Committee) ซึ่งจะมีการประชุมที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศสทุกปี
สำหรับการนวดไทยขณะนี้ ส่วนใหญ่จะให้บริการอยู่ในกิจการสปาเพื่อสุขภาพซึ่งแพ็คเกจการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ กำลังได้รับความนิยมจากต่างประเทศเป็นอันมาก ข้อมูลล่าสุดในปีพ.ศ. 2556 รายได้ไทยจากสปามูลค่า 28,500 ล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 13 ของโลก โดยรายได้ทั่วโลกจากสปามูลค่า 305,000 ล้านบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น