เชียงใหม่สั่งตั้งศูนย์ EOC ทั้ง 25 อำเภอรับมือไวรัส “ซิกา” ย้ำพบการระบาดแค่ 3 ตำบลในสันทราย พบผู้รับเชื้อแล้ว 7 ราย มึน สสจ.เชียงใหม่ อมพะนำกว่าจะปูดข้อมูลพบติดเชื้อลามเป็นรายที่ 7 รายที่ 4 ถึงรายที่ 7 เพิ่งทราบกันทั่วกลางที่ประชุมนายอำเภอ ผู้แทน สสจ.อ้างเฉย “ระบบการรายงานมีปัญหา” จึงไม่ได้รายงานจังหวัด หนักข้อพบรายที่ 7 ติดเชื้อในหญิงมีครรภ์ สสจ.แจงมีการเฝ้าระวังใกล้ชิดแล้ว ด้าน “ปวิณ” สั่งการแล้ว ทุกวันจันทร์ต้องรายงานให้ประชาชนได้ทราบ วอนประชาชนอย่าตระหนก
วันที่ 30 ส.ค.59 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมนายอำเภอประจำเดือนสิงหาคม 2559 โดยในที่ประชุม ผวจ.เชียงใหม่ ได้ให้ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่รายงานสถานการณ์ไข้เลือดออกและไวรัสซิกาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งยังพบว่ามีการระบาดของไข้เลือดออกให้เกือบทุกอำเภอของพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนสถานการณ์ไวรัสซิกายังไม่มีความชัดเจน ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย โดยนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0214 (ส)/ว 518 ลงวันที่ 26 ส.ค.59 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพชรบูรณ์ บึงกาฬ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งให้ทั้ง 4 จังหวัดสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไวรัสซิกา ซึ่งการดำเนินการตามโทรสารสั่งการของกระทรวงมหาดไทยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีข้อสั่งการให้ทั้ง 25 อำเภอ จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน หรือ Emergency Operation Center หรือ EOC ซึ่งมีการดำเนินการตั้งศูนย์ในแต่ละอำเภอตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.59 ที่ผ่านมา และได้มีการรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบถึงการดำเนินการในภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ครั้งแรกในวันที่ 29 ส.ค.59 ที่ผ่านมาเช่นกัน
ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีของไวรัสซิกา ต่อที่ประชุมว่า ยังพบมีการระบาดที่จุดเดียวคือที่อำเภอสันทราย หลังจากที่เคยพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับเชื้อมาจากจังหวัดเพชรบูรณ์จำนวน 2 ราย ที่อยู่ในเขตตำบลสันทรายหลวง ซึ่งได้มีการควบคุมในรัศมี 100 เมตร และติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องตลอด 28 วัน จนสามารถควบคุมได้ และจากระบบเฝ้าระวังในพื้นที่พบว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสชิก้าเป็นรายที่ 3 ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยพบข้อมูลว่าได้รับเชื้อ เมื่อ 14 สิงหาคม และทางสาธารณสุขได้ลงพื้นที่ไปสอบถามพบว่าชาวต่างชาติเป็นอาจารย์พิเศษ แต่ไม่สามารถทราบได้ว่าเดินทางไปไหนบ้าง ในส่วนบริเวณบ้านพักซึ่งปลูกสัปปะรดไว้จำนวนมากนั้นทางเจ้าของได้อนุญาตให้ตัดทิ้งไปแล้ว
ผู้แทน สสจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมอีกว่า ขณะนี้มีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสชิก้ารวมแล้ว 7 ราย ซึ่งพบเฉพาะในพื้นทีอำเภอสันทรายเพียงอำเภอเดียว และกระจายอยู่ใน 3 ตำบล ได้แก่ ต.สันทรายหลวง หนองหาร และ ต.แม่แฝก พร้อมกับยอมรับว่าระบบการรายงานมีปัญหา จึงยังไม่ได้รายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ทราบ โดย 1 ใน 7 รายพบว่าเป็นหญิงที่ตั้งครรภ์ 1 รายอีกด้วย โดยรายที่พบว่าติดเชื้อไวรัสชิก้าก็มาจากระบบการเฝ้าระวัง หลังจากพบผู้ป่วยชาวต่างชาติรายที่ 3 ซึ่งได้รับข้อมูลว่าได้รับเชื้อเมื่อ 14 สิงหาคม และต่อมาก็มีรายที่ 4 พบข้อมูลเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม รายที่ 5 พบข้อมูลเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม รายที่ 6 และรายที่ 7 พบข้อมูลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม
เป็นที่น่าสังเกตว่า การชี้แจงของเจ้าหน้าที่จาก สสจ.เชียงใหม่ ต่อที่ประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งประชุมร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย ประเด็นการพบผู้ติดเชื้อรายที่ 4 ถึงรายที่ 7 อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ เป็นการรับทราบข้อมูลใหม่ทั้งหมดในวันประชุมนายอำเภอ
ด้าน นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่ประชุมว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะในวอร์รูมที่ตั้งขึ้นมา เมื่อระบบการรายงานมีปัญหา แต่ทางกระทรวงได้สั่งการให้ทางจังหวัดเข้าไปสนับสนุนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการทำความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชน ดังนั้นจะมอบหมายให้ รองผวจ.เขียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ นี้ด้วย และให้ประชุมติดตามสถานการณ์และรายงานต่อกระทรวงทุกสัปดาห์ตามคำสั่งของปลัดกระทรวงมหาดไทย
“ผมไม่ต้องการให้มีการปิดข่าว เพราะถ้าหากข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่จากทางอื่นจะยิ่งไม่เกิดผลดี ดังนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่จะต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องออกไป ให้ทุกคนได้มีความตระหนักแต่ไม่ใช่ตื่นตระหนก เพราะเชื้อไวรัสซีกาไม่ได้ทำให้เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต เหมือนไข้เลือดออก สสจ. ต้องยอมให้หน่วยงานอื่นเข้าไปร่วมกับกิจกรรมนี้ อาจต้องตั้งคณะทำงานในการป้องกันไข้เลือดออกและซิกา ไวรัสชิกาชาวต่างชาติจะมีความกังวลเนื่องจากมีผลกระทบกับคนที่สาม ซึ่งเป็น 1 ในโรคที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กำหนดไว้” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
“ต้องให้ประชาชนได้รับทราบ เรื่องนี้ต้องไม่มีการปิดบัง เพื่อให้ได้รับรู้และตระหนักในเรื่องนั้นๆ เช่นเดียวกับไข้เลือดออก คนเชียงใหม่ยังไม่รู้เลยว่าจังหวัดตัวเองมีคนเป็นไข้เลือดออกติดอันดับ 2 ของประเทศด้วยซ้ำไป ดังนั้นขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ไปทำเอกสารข่าวเพื่อเผยแพร่ไปพร้อมกันเลยว่า ผลจากการแพร่ระบาดของยุงลายทำให้มีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกกี่ราย เสียชีวิตกี่ราย ติดเชื้อไวรัสซิกากี่ราย ต้องประชาสัมพันธ์ข้อมูลเหล่านี้ให้ประชาชนได้รับทราบรับรู้ ไม่ใช่เรื่องของการตื่นตระหนก แต่ต้องรู้และเป็นเรื่องที่ตัวเองต้องระมัดระวัง เพื่อจะนำไปสู่มาตรการการจะช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง” นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ เน้นย้ำเรื่องการทำงานต่อที่ประชุม” นายปวิณฯ กล่าว
ทั้งนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมในประชุมว่า เดิมเห็นว่าไวรัสซิกายุติไปแล้ว ที่ยุติก็ยุติแล้วก็ยุติไป แต่รายที่ 4 รายที่ 5 รายที่ 6 และรายที่ 7 ที่ประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอกับผู้บริหารจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งทราบข้อมูลวันนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่เอี่ยม และทำให้ผู้บริหารจังหวัดเชียงใหม่เพิ่งทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นรายที่ 7 แล้ว
เสร็จสิ้นการประชุม นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ “เชียงใหม่นิวส์” ว่า จากที่เคยพบผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาช่วง 2 เดือนก่อนหน้านี้ 2 ราย และพบชาวต่างชาติอีก 1 ราย ซึ่งได้มีการควบคุมตามหลักวิชาการ 28 วัน มีการดำเนินการตามขั้นตอนการเฝ้าระวังและควบคุมโรค แต่ต้องยอมรับว่าในช่วงนี้มีฝนตกมาก และเกิดน้ำท่วมขัง ประกอบกับมีสถานการณ์ไข้เลือดออกในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทั้งไข้เลือดออกและไวรัสซิกา มีพาหนะคือยุงลายเหมือนกัน และได้รับรายงานเมื่อวันนี้ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย แต่ได้มีเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อบริหารจัดการควบคุมโรคแล้วซึ่งพบเพียงอำเภอเดียวคือที่ อ.สันทราย และขณะนี้ทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่มีการตั้งศูนย์เฝ้าระวัง อีกประการให้นายอำเภอทุกอำเภอตั้งคณะทำงานเพื่อทำงานเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ พร้อมกับการประสานกับ อปท. ในพื้นที่ในการฉีดพ่นสารเคมี และขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในการร่วมมือกำจัดลูกน้ำยุงลาย
“1 ใน 4 ที่หลังสุดที่ว่าติดเชื้อซิกานี้พบว่า มี 1 รายเป็นหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งทาง สสจ.ได้ดูแลกรณีนี้เป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้กระทบเด็กในครรภ์ สสจ.เองก็รับปากว่ารายที่ตั้งครรภ์นี้จะเฝ้าระวังและดูแลเป็นพิเศษ” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
“ทุกวันจันทร์ก็จะให้ทาง สสจ.ทำข้อมูลรายงานให้ประชาชนได้รับทราบ ที่สำคัญคือต้องช่วยกันป้องกัน เรื่องซิกานั้นอาจจะดูรุนแรงแต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิตอย่างไข้เลือดออก ซึ่งหากทุกคนช่วยลดปริมาณยุงลงได้ทั้ง 2 โรคที่ว่ามานั้นก็จะลดลง ที่อยากขอความร่วมมืออย่างแรกก็คือ ช่วยกันทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง อยู่บ้านอาจต้องทายากันยุงบ้าง อีกประการคือขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการที่จะฉีดพ่นหรือเข้าไปตรวจสอบ ด้วยว่าการทำงานในเรื่องนี้ไม่ใช่ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการทำเพื่อส่วนรวม ทำเพื่อเชียงใหม่และประเทศไทย” นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ แจง
ร่วมแสดงความคิดเห็น