มอบใบประกาศ นร.ชาวนา

เมื่อวันที่ผ่านมา ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลำปาง ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเสือ ศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวนาและเกษตรพื้นบ้านบ้านก้อมหนองมุง และหน่วยงานภาคีเครือข่ายในพื้นที่อำเภอแม่ทะ จัดงานกิจกรรมฉลองความสำเร็จ ทำพิธีมอบใบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนเกษตรกรชาวนา ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะ ประจำปี 2559 ในงาน “ประชารัฐรวมใจ เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี” ซึ่งได้มีการจัดกิจกรรมขึ้น ที่บริเวณศูนย์แปลงเรียนรู้การเกษตรชุมชน ที่บริเวณพื้นที่ศูนย์แปลงเรียนรู้การเกษตร ชุมชนบ้านก้อมหนองมุง หมู่ที่ 1 ตำบลหัวเสือ อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง มีนายธนิต สุภาแสน นายอำเภอแม่ทะ เป็นประธานพิธีในงานฉลองความสำเร็จ พร้อมให้เกียรติเป็นผู้มอบใบประกาศนียบัตรและกล่าวให้โอวาทแก่นักเรียนเกษตรกรชาวนาผู้สำเร็จการศึกษา รวมทั้งหมด 80 คน โดยมีคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลหัวเสือ หัวหน้าส่วนราชการทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ รวมถึงพี่น้องประชาชนในเขตท้องที่อำเภอแม่ทะ รวมจำนวนกว่า 150 คน ร่วมเป็นเกียรติในพิธีและร่วมแสดงความยินดีกับนักเรียนเกษตรกรชาวนาที่สำเร็จการศึกษา
การจัดงานดังกล่าวนับเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง หลังจากที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวลำปาง ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะขึ้น เพื่อเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้เกษตรกรชาวนาในอำเภอแม่ทะ ได้เข้าศึกษาเทคโนโลยีด้านการผลิตข้าวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ในหลักสูตร “ชาวนามืออาชีพ” ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของจังหวัดลำปาง ภายใต้งบพัฒนาจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2559 เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชน โดยมุ่งหวังให้โรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะแห่งนี้ ได้เป็นศูนย์กิจกรรมเพื่อการศึกษาเรียนรู้ทางวิชาการด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ในการผลิตข้าวของเกษตรกรชาวนา และเป็นศูนย์ฝึกทักษะที่จะได้สร้างองค์ความรู้ในเรื่องของการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ตามหลักแนวทางทฤษฎีปฏิบัติในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการจะสร้างความสุขให้เกิดแก่เกษตรกรชาวนาอย่างยั่งยืนตามวิถีเกษตรพอเพียง และมุ่งหวังที่จะให้เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่เกษตรกรชาวนารายอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นส่งเสริมการพัฒนาและยกระดับคุณภาพข้าวทั่วทั้งจังหวัด ตลอดจนเพื่อให้ศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้เป็นสื่อกลางในการที่จะเสริมสร้างความรัก ความสามัคคี สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อสนองตอบนโยบายขับเคลื่อนภารกิจตามแนวทาง Road Map ของของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอดจนเพื่อเป็นการธำรงรักษา สืบทอดอาชีพที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทยสนับสนุนขับเคลื่อนนโยบายจังหวัด ให้ลำปางเป็นเมืองแห่งความสุข สมเจตนารมณ์ “ลำปางเมืองน่าอยู่ นครแห่งความสุข ที่ไม่หมุนตามกาลเวลา”
ทั้งนี้ ตลอดช่วงระยะเวลาในการดำเนินงาน 4 เดือนผ่านมา ศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตข้าว “โรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะ” ได้มีการนำเกษตรชาวนาที่มีความสนใจ และมีความมุ่งมั่นในการที่จะเป็นชาวนามืออาชีพ รวมทั้งสิ้น 80 คน เข้ามาฝึกฝนเรียนรู้ทักษะทั้งด้านทฤษฏีและฝึกปฏิบัติจริง ในเรื่องของการผลิตข้าว เริ่มตั้งแต่กระบวนการเพาะเมล็ดพันธุ์ไปจนถึงเทคนิควิธีการปลูกข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิต ด้วยกรรมวิธีการต่างๆ ทั้งการใช้เครื่องหยอดข้าว การหว่าน การโยนกล้า การปักดำด้วยมือ และการใช้รถปักดำทั้งแบบนั่งขับ และแบบเดินตาม พร้อมได้มีการสอดแทรกองค์ความรู้เทคนิควิธีในเรื่องต่างๆ อาทิ การพัฒนาพันธุ์ข้าว การลดต้นทุนการผลิต การเก็บเกี่ยว การทำผลิตภัณฑ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการบริหารด้านการตลาด โดยเฉพาะการเพิ่มมูลค่าข้าวตามระบบข้าว GAP และข้าวอินทรีย์ รวมถึงเทคนิคการสร้างการเจริญเติบโตของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะเป็นแนวทางช่วยในการเพิ่มศักยภาพทางการผลิตข้าวและการแข่งขันทางการตลาดให้กับเกษตรกรชาวนาในอำเภอแม่ทะ โดยในการจัดงานครั้งนี้ ทางกลุ่มเกษตรกรนักเรียนชาวนา ได้นำผลิตภัณฑ์จากข้าว และนวัตกรรมองค์ความรู้ที่ได้ใช้ในกระบวนการผลิตข้าว มาร่วมออกบูธจัดแสดงนิทรรศการให้แขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานได้เยี่ยมชมด้วย และในโอกาสนี้เดียวกันนี้ เพื่อเป็นการรองรับกับผลผลิตข้าวในพื้นที่แปลงปลูกกว่า 25 ไร่ ของศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะ ซึ่งจะให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้า ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดลำปาง ได้ดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์สำหรับใช้ในกรรมวิธีการผลิต ผลิตภัณฑ์จากข้าวมอบให้แก่ศูนย์การเรียนรู้โรงเรียนข้าวและชาวนาอำเภอแม่ทะ โดยมีนายธนิต สุภาแสน นายอำเภอแม่ทะ ให้เกียรติเป็นตัวแทน ในการส่งมอบครุภัณฑ์ ประกอบด้วย เครื่องวัดความชื้น จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องสีข้าวกล้อง จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องแพ็คสุญญากาศ จำนวน 1 เครื่อง และตู้อบแห้งแบบมีพัดลม อีกจำนวน 1 ตู้ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 345,000 บาท