สาวน้อยประแป้ง

B1 สาวน้อยประแป้ง เป็นไม้ใบประดับอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับความนิยมปลูกเลี้ยงไว้ประดับอาคารบ้านเรือนและสำนักงานอย่างแพร่หลาย ไม่ต่างไปจากเขียวหมื่นปี ไม้ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อมาถึงเมืองไทยก็กลายเป็นไม้มงคลที่ถูกตั้งชื่อให้มีความหมายไปในทางมงคล จึงเป็นไม้ประดับที่นิยมเลี้ยงกันเพื่อความเป็นสิริมงคลของผู้ปลูกเลี้ยง

สาวน้อยประแป้ง มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อ้ายใบ เป็นพืชในวงศ์ Araceae สกุล Dieffenbachia แต่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า Dumbcane มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบหมู่เกาะอินดิสตะวันตกและทวีปอเมริกาใต้ สำหรับคำว่า Dieffenbachia ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน นาย เจ.เอฟ.ดิฟเฟนบาค ( J.F.Dieffenbach ) สาวน้อยประแป้งในเมืองไทยถูกนำเข้าจากประเทศอเมริกาใต้หลายประเทศ เช่น เวเนซุเอล่า บราซิล โคลัมเบีย และคอสตาริก้า เป็นต้น การนำเข้ามีทั้งพันธุ์ดั้งเดิมและลูกผสมใหม่ๆ โดยที่รัฐฟลอริด้าของสหรัฐฯ ถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตลูกผสมใหม่ๆ มากมาย ซึ่งล้วนมีความสวยงามแปลกตา ความสวยงามของไม้ตระกูลสาวน้อยประแป้งอยู่ที่ทรงต้น ใบที่มีขนาดใหญ่ มีริ้วลาย จุดประ สีสันสะดุดตา การเรียงตัวของกาบใบ และความอ่อนช้อยนุ่มนวล เหล่านี้ล้วนเป็นเสน่ห์ของสาวน้อยประแป้ง

B2ลักษณะโดยทั่วไป สาวน้อยประแป้ง เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวมีลักษณะคล้ายพืชในตระกูลเขียวหมื่นปี แต่ใหญ่กว่า ลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อนกลม ตั้งตรงแข็งแรง มีข้อถี่ แตกใบอ่อนตรงส่วนยอดของลำต้นทีละใบ ก้านใบยาว ส่วนที่ติดกับลำต้นมีลักษณะเป็นกาบ ใบมีรูปร่างยาวเรียวคล้ายใบพาย โคนใบมน ปลายใบเรียวแหลม บางชนิดแหลมเกือบมน พื้นใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม ด่างสีขาว ครีม หรือเหลือง หรือมีจุดแต้มบนพื้นใบต่างกันไป ดอกของสาวน้อยประแป้งมีลักษณะคล้ายดอกหน้าวัว มีกาบอยู่เพียงกาบเดียวหุ้มแท่งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย โดยเกสรตัวผู้อยู่ส่วนบน และเกสรตัวเมียอยู่ส่วนล่าง ออกดอกเป็นกลุ่มส่วนมากมีสีเขียวอ่อน เวลาบานกาบจะแย้มออกเล็กน้อย ดอกของสาวน้อยประแป้งบางชนิดมีกลิ่นเหม็นมาก ยางของสาวน้อยประแป้งเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์ ถ้าถูกผิวหนังจะทำให้คันมาก ถ้าเข้าปากจะทำให้ลิ้นบวมและขากรรไกรแข็ง หากกินเข้าไปอาจทำให้ตายได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น