นานาสาระ อันตรายจากหินปูน

8
1. ทำให้เลือดออกขณะแปรงฟัน เพราะบางคนอาจจะคิดว่ามีเศษอาหารติดซอกฟัน ทำให้พยายามแปรงฟันแรง ๆ แต่หินปูนไม่สามารถใช้แปรงสีฟันเอาออกได้ จึงอาจจะเกิดการใช้แรงกดเกินไปจนเลือดออก
2. เหงือกบวม สืบเนื่องจากการแปรงฟันโดยเน้นแรงกดอาจจะทำให้เลือดออกแล้วเหงือกยังบวมอักเสบ หรือเป็นแผลซึ่งทำให้ยุ่งยากและทรมานกับการกินอาหารได้ครับ
3. ฟันเหลืองสุด ๆ เนื่องจากเป็นแคลเซียมและจุลินทรีย์มาเคลือบผิวฟัน จึงเกิดการตกตะกอนเป็นสีเหลืองทำให้เสียบุคลิกภาพ
4. มีกลิ่นปาก เพราะคราบหินปูนก็มีแบคทีเรียจากขี้ฟันที่ทำให้มีกลิ่นปาก
5. เหงือกร่น เพราะหินปูนหากเกาะตัวกันใหญ่มาก ๆ มันก็จะดันลงข้างล่าง ดันเหงือกของเราให้ถอยตัวลงไป
6. ฟันโยก ฟันห่าง ถ้าหินปูนดันเหงือกลงมาก ๆ แล้วก็จะทำให้เหงือกยึดฟันได้น้อย เวลาเคี้ยวอาหารก็มีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่ฟันจะโยก และถ้าหินปูนใหญ่ขึ้นก็จะดันฟันข้าง ๆ ได้ ทำให้ฟันห่างกัน
7. ฟันผุ เชื้อจุลินทรีย์ที่ย่อยอาหารแล้วปล่อยสารที่กรดออกมา จะกัดกร่อนผิวเคลือบฟันให้เป็นร่อง เป็นอย่างต่อเนื่องนาน ๆ จะทำให้ผิวฟันเป็นรู ซึ่งเรียกว่าฟันผุ
8. เหงือกอักเสบ เชื้อจุลินทรีย์บางจำพวก จะปล่อยสารพิษออกมาทำลายเยื่อเหงือก ทำให้เกิดเหงืออักเสบ
9. โรคปริทนต์ คราบหินปูนถ้าเป็นอย่างต่อเนื่องนาน ๆ เกิดเป็นโรคปริทนต์ได้ เพราะแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่เกาะบนหินปูนจะกำจัดได้ยากกว่าบนผิวฟัน ดังนี้ถ้าต้องการกำจัดแผ่นคราบจุลินทรีย์ให้หมดต้องกำจัดหินปูนออกก่อน
กำจัดหินปูนอย่างไร
วิธีการกำจัดหินปูนออกจากฟันของเราได้มีประสิทธิภาพและได้ผลแน่นอนที่สุดก็คือ “ขูดหินปูน” โดยทันตแพทย์ เพราะหินปูนไม่สามารถใช้แปรงสีฟันแปรงออกได้ และห้ามนำไม้หรือของแข็งมาแถะหินปูนเด็ดขาด ผมเคยลองมาแล้วนอกจากหินปูนไม่ออกยังทำให้เลือดไหลตามไรฟันที่หินปูนขึ้น แถมเสียวฟันอีกต่างหาก
เนื่องจากการดูแลฟันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การขูดหินปูนจึงมีระยะเวลาความถี่ที่แตกต่างกัน แต่โดยเฉลี่ยแล้วควรพบทันตแพทย์อย่างน้อย 6 เดือนต่อ 1 ครั้ง เพื่อทำการขูดหินปูน แต่สำหรับบางคนที่ดูแลฟัน แปรงฟันถูกวิธี ทันตแพทย์ก็จะแนะนำเวลาที่จะต้องขูดหินปูนในนัดครั้งต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น