ประชุม 4 ประเทศ วางเป้าหมายเน้นเศรษฐกิจ ผวจ.เชียงใหม่ ลุ้นการลงทุน เน้นเข้มเรือขนส่งข้ามโขง

510378ประชุม 9 ฝ่าย 4 ประเทศจัดยิ่งใหญ่ “จีน ลาว เมียนมา ไทย” หวังสร้างมิตรภาพระหว่างกัน “ปวิณ” ขอที่ประชุมร่วมกันพัฒนาความร่วมมือ 4 ด้าน เริ่มจากการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ ขอทุกฝ่ายเน้นการให้ข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนเพื่อการค้าการลงทุน ขอทุกฝ่ายสร้างกฎเกณฑ์ให้เอื้อการลงทุน ด้านการท่องเที่ยวยกให้เส้นทาง R3A และ R3B เป็นถนนสายท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ส่วนด้านการขนส่งขอให้ทุกฝ่ายเข้มเรือขนส่งในแม่น้ำโขงต้องจอดบริเวณท่าเรือที่กำหนดเท่านั้น ปิดท้ายขอความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรมเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้

วันที่ 15 ก.ย.59 เวลา 11.00 น. ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการประชุมความร่วมมือ 4 ประเทศ 9 ฝ่าย เขตชายแดนจีน-ลาว-เมียนมา-ไทย ครั้งที่ 6 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย.59 โดยมีผู้แทนจากเขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน แขวงหลวงน้ำทา แขวงบ่อแก้ว แขวงอุดมไชย แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาชนลาว จังหวัดท่าขี้เหล็ก และจังหวัดเชียงตุง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย แห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเพื่อสนับสนุนความร่วมมือที่เป็นมิตรภาพอันดีงามระหว่าง 9 ฝ่ายเขตชายแดน 4 ประเทศ

นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุม ว่า ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่ได้เสริมสร้างมิตรภาพและความร่วมมือในด้านต่างๆ ของทั้ง 9 ฝ่ายอย่างต่อเนื่อง และเห็นควรที่ทั้ง 8 ฝ่ายและเชียงตุงสมาชิกใหม่ ควรให้ความร่วมมือต่อกัน ดังนี้ ประการแรกความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ เป็นการสนับสนุนและดำเนินความร่วมมือเศรษฐกิจรอบด้านระหว่างจีนและอาเซียนให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการค้าและการลงทุน เพื่อเผยแพร่ระเบียบการลงทุน การค้า การส่งออก การนำเข้าของภาครัฐให้แก่ภาคเอกชนของทั้ง 9 ฝ่าย เพื่อให้เป็นข้อมูลแก่ผู้ประกอบการที่สนใจในการดำเนินธุรกิจและเพื่อเป็นการสนับสนุนความร่วมมือให้ได้รับผลดี แสวงหาวิธีการแก้ไขด้านการส่งสินค้าขาเข้าขาออกร่วมกันเป็นประจำ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ร่วมมือด้านเศรษฐกิจชายแดนของทั้ง 9 ฝ่ายให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้มีการจัดงานแสดงสินค้าในแต่ละปี ส่งเสริมให้มีการจัดนัดพบนักธุรกิจ หรือ Business Matching โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนของทั้ง 9 ฝ่าย เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการค้าการลงทุนแก่ทุกฝ่าย

“ประการที่ 2 ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยร่วมกันสร้างเครือข่ายด้านความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลสารสนเทศด้านการท่องเที่ยว การส่งเสริมด้านความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การฝึกอบรมด้านการท่องเที่ยวร่วมกัน ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนบทเรียนของนักวิชาการ และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวพร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดคาราวานการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ จักรยาน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวได้มีโอกาสปรึกษาหารือระหว่างกัน ใช้เป็นข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยใช้เส้นทาง R3A และ R3B และกำหนดให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงทั้ง 4 ประเทศ และส่งเสริมให้มีการจัดแสดงและประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างน้อยปีละครั้ง โดยให้ทั้ง 9 ฝ่ายสลับกันเป็นเจ้าภาพการจัดงาน” ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

นายปวิณฯ กล่าวต่อว่า ประการที่ 3 ความร่วมมือด้านการขนส่ง ส่งเสริมการปฏิบัติตามสัญญาว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้า ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ส่งเสริมกิจการเรือขนส่งที่ประกอบการในแม่น้ำโขงได้จอดบริเวณท่าเรือที่กำหนดไว้ ตามระเบียบการเดินเรือของทั้ง 4 ประเทศ คือ จีน ลาว เมียนมา และไทย เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ โดยแต่ละฝ่ายจะส่งเสริมการคมนาคมทางน้ำทางบกและทางอากาศให้มีสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยในการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว

ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ประการที่ 4 ความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรม โดยส่งเสริมให้ทั้ง 9 ฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนบุคลาการทางการศึกษาระหว่างกัน เพื่อศึกษาภาษา วัฒนธรรม ประเพณี ระหว่างกัน และเพื่อสนองนโยบายระหว่างกันของทั้ง 4 ประเทศ ในการเข้าร่วมประชาคมอาเซียนและความร่วมมืออาเซียน-จีน พร้อมทั้งสนับสนุนให้นักเรียนของตนเรียนภาษาของแต่ละฝ่าย โดยมีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของแต่ละฝ่ายเป็นผู้อำนวยความสะดวก ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนทางกิจกรรมประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ ของทั้ง 4 ประเทศที่มีความคล้ายคลึงกัน เช่น ประเพณีส่งสังขารหรือสงกรานต์

“การประชุมความร่วมมือ 4 ประเทศ 9 ฝ่ายเขตแดนจีน ลาว เมียนมา และ ไทย จัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง เพื่อแสดงถึงมิตรภาพอันดีงามระหว่างกันและความร่วมมือระหว่างกัน ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นเวทีที่แต่ละฝ่ายจะได้เสนอความร่วมมือใหม่ๆ ระหว่างกันเพื่อประโยชน์ของทุกฝ่าย และเห็นว่าทั้ง 9 ฝ่ายที่ประชุมมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของตนเอง หากสามารถรวมจุดแข็งเข้ากันได้จะส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวและนำไปสู่การพัฒนาภูมิภาคร่วมกันได้และหวังว่าการพบปะครั้งนี้จะเกิดเครือข่ายประสานงานได้มากขึ้น และส่งเสริมมิตรภาพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเกิดความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมและมีความร่วมมือเพิ่มขึ้นหลายๆ ด้านและหวังว่าจะได้รับโอกาสต้อนรับอีกในโอกาสต่อไป” นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวในที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น