กอช.เปิดโอกาสให้ออมทรัพย์ได้เบี้ยบำนาญยาว คนสูงวัยมีสิทธิ์หมดดูแลจนถึงเสียชีวิต

กอช.เดินสายขึ้นเชียงใหม่ ดึงเครือข่ายกองทุนการเงินในชุมชนถกแนวทางหาสมาชิกเพิ่ม เผยช่วงนี้โอกาสทอง อายุ 60 ปี สามารถสมัครได้ เปิดโอกาสให้ถึงวันที่ 25 ก.ย.นี้เท่านั้น ตั้งเป้าสิ้นปี 59 ได้สมาชิก 1 ล้านคน ยันกองทุนมีประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้อยู่นอกระบบ ออมขั้นต่ำแค่ 50 บาท รัฐจ่ายสมทบให้มากถึง 100 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 15 ก.ย.59 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการออมเงินอย่างยั่งยืนกับเครือข่ายองค์กรการเงินชุมชน สถาบันการเงินชุมชน ระหว่างกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสินจัดขึ้น เพื่อชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น กองทุนหมู่บ้านและชุมชน เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของกองทุนการออมแห่งชาติ

นายทฤษฎี ชุติวงษา ผู้ช่วยเลขาธิการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้สืบเนื่องจากการออมเงินในกองทุนการออมแห่งชาติจะต้องดำเนินการออมผ่านธนาคารของรัฐ คือ ธนาคารออมสิน ธกส. หรือธนาคารกรุงไทย แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยู่ในเงื่อนไขที่จะสมัครเข้ากองทุนการออมแห่งชาติได้นั้นส่วนมากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและเข้าไม่ถึงธนาคารของรัฐ จึงได้จัดกิจกรรมนี้ร่วมกับเครือข่ายองค์กรการเงินชุมชนที่มีระบบการเงินผูกกับธนาคารของรัฐอยู่แล้ว โดยให้กองทุนการออมแห่งชาติเป็นเครือข่ายเพิ่มเติม เพราะว่าประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงเครือข่ายชุมชนซึ่งอยู่พื้นที่ได้ตรงและเข้าถึงได้ง่ายกว่า

“สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมกับกองทุนการออมแห่งชาติ ก็คือ ต้องเป็นคนไทย มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ โดยจะต้องเป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระบบบำเหน็จ บำนาญของรัฐ ไม่อยู่ในกองทุนอื่นที่ได้รับเงินสมทบจากภาครัฐที่มีบำเหน็จ บำนาญ แต่ในช่วงนี้มีโอกาสพิเศษคือ ภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ ทาง กอช. เปิดโอกาสให้ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถสมัครเป็นสมาชิกกองทุนได้จากปกติสมัครไม่ได้ หรือผู้ที่มีอายุ 52 ปี และจะเหลือเวลาออม 8 ปี ก็ยืดให้ออมได้ถึงอายุ 62 ปี โดยจะมีเงินสมทบจากรัฐบาลด้วย”

ผู้ช่วยเลขาธิการ กอช. กล่าวอีกว่า สำหรับการออมนั้น ขั้นต่ำเป็นการออมภาคสมัครใจ ออมตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไป ในแต่ปีละยอดเงินออมรวมต้องไม่เกิน 13,200 บาท แต่เกณฑ์สมทบที่ได้จากรัฐจะแบ่งไปตามอายุ อาทิ อายุ 50 ปี รัฐจะสมทบ 100 เปอร์เซ็นต์ ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท อายุ 30-50 ปี รัฐสมทบ 80 เปอร์เซ็นต์ ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 960 บาท ทั้งนี้ กอช. ตั้งเป้าปีนี้ไว้ว่า ในทั่วประเทศจะมีสมาชิก กอช. จำนวน 1 ล้านคน ขณะนี้ กอช. มีสมาชิกอยู่ราว 4.3 แสนคน